เจ้าของสวนทุเรียนหนองเสือชื่อดังครวญผลผลิตน้อยเพราะอากาศแปรปรวนอาจจะต้องเลิกปลูก

สวนทุเรียนหนองเสือ

เจ้าของสวนทุเรียนหนองเสือชื่อดังครวญผลผลิตน้อยเพราะอากาศแปรปรวนอาจจะต้องเลิกปลูก





ad1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงระหว่างเดือนเมษายนเป็นต้นไปจะเป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนจะการเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียนเพื่อจำหน่ายให้แก่พ่อค้าแม่ค้าแบะนักชิมทั่วไปที่ต้องการลิ้มลองรสชาติความอร่อยที่ใน 1 ปีจะมีสักครั้ง โดยทุเรียนที่มีชื่อเสียงและมีรสชาติที่ผู้คนต่างต้องการลิ้มลองความอร่อยนั้นมีไม่ดีจังหวัดในประเทศไทย

อย่างเช่นทุเรียนหนองเสือ จ.ปทุมธานี นั้น จัดได้ว่าเป็นทุเรียนที่มีชื่อเสียงและรสชาติถูกปากนักชิมเป็นจำนวนมาก อีกทั้ง มีการปลูกเพียงไม่กี่สวนนายอำเภอหนองเสือเท่านั้น ในแต่ละปีจะมีนักชิมต่างทยอยเดินทางมาซื้อทุเรียนจากสวนในอำเภอหนองเสือเพียงไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ก็หมดสวนแล้วซึ่งนักชิมจะได้ลิ้มลองความอร่อยเพียงแค่ครั้งเดียวในแต่ละปีเท่านั้น

แต่ปัจจุบันนี้ทุเรียนหนองเสือ กลับมีผลผลิตที่ลดน้อยลงจนกระทั่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากสภาพอากาศที่มีการแปรปรวนเกิดขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตน้อยลงจนเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนต่างเกิดความท้อและอาจจะเลิกปลูกทุเรียนแล้วหันไปปลูกพืชอื่นแทน

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่สวนทุเรียนสุพจน์ ตั้งอยู่ที่ ถนนเลียบคลองเก้า หมู่ที่ 7 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เพื่อนอบถามถึงปัญหาผลผลิตทุเรียนลดน้อยลงจากนายสุพจน์ ตันพิชัย เจ้าของสวนทุเรียนหนองเสือ โดยนายสุพจน์ กล่าวว่าสวนทุเรียนสุพจน์นั้นได้ปลูกทุเรียนเอาไว้จำนวน 50 ไร่ เดิมทีเมื่อหลายปีก่อนที่ทุเรียนหนองเสือยังไม่เกิดปัญหาทั้งอากาศแปรปรวน และภัยแล้งนั้นทางสวนของเราสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตและจำหน่ายได้กว่า 20,000 ลูกแต่ปัจจุบันนี้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เพียง 1000 กว่าลูกเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน มีพายุเข้าฝนตกผิดฤดูและตกติดต่อกันหลายวันส่งผลให้เกิดการแตกใบอ่อนของทุเรียนและลูกก็จะร่วงหล่นจนกระทั่งบ้างต้นไม่เหลือผลผลิตก็มี

ซึ่งในปีนี้ผลผลิตน้อยมากน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมาหลังประสบปัญหาอากาศแปรปรวนทำให้ทางสวนทุเรียนของเราอาจจะมีผลผลิตน้อยมากและไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าที่เดินทางมาขอซื้อกับเราทุกปี อีกทั้งทุเรียนของเราอาจจะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น กว่าเดิม ซึ่งหากว่าอากาศยังมีการแปรปรวนแบบนี้ในทุกๆปีทางเราอาจจะต้องเลิกปลูกทุเรียนก็เป็นได้ เพราะไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตทั้งค่าปุ๋ยค่าดูแลรักษาที่เพิ่มสูงขึ้น นายสุพจน์ กล่าว

กำพล วงศ์สุทธา/รายงาน