ห้างดัง!ชี้แจงเหตุชายใช้คัตเตอร์ ไล่กรีดผู้หญิงจนบาดเจ็บ 2 ราย ภายในห้าง

จากเหตุหนุ่มคลั่งใช้มีดคัตเตอร์วิ่งไล่กรีดผู้หญิงกลางห้างเซนทรัลเวิลด์ ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม. จนมีผู้บาดเจ็บ 2 คน เมื่อช่วงเวลา 16:18 น. ของวันที่ 19 เมษายน 65 ที่ผ่านมา 
โดยจุดเกิดเหตุอยู่ชั้น 2 โซนร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง และอีกจุดหนึ่งใกล้กัน บริเวณป้ายหน้าบันไดเลื่อน 
เหตุดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวให้กับลูกค้าและประชาชนที่กำลังเดินอยู่ในห้างในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างมาก
.
กระทั่งในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวได้หลังก่อเหตุ 5 นาที และเบื้องต้นหนุ่มคนก่อเหตุ พูดจาไม่รู้เรื่องอ้างว่าทำไปโดยไม่รู้ตัว 
.
สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าคนร้ายวิ่งมาแทงผู้หญิงรายแรกบริเวณหน้าห้องน้ำ จากนั้นคนร้ายก็วิ่งไปทางซ้ายบริเวณหน้าบันไดเลื่อนใกล้กับร้านอาหาร พร้อมกับตะโกนคล้ายคนคลั่ง ก่อนจะกระโดดแทงผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แล้ววิ่งอ้อมบันไดเลื่อนหนีไป 
.
ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 2 คน คนเเรก อายุ 27 ปี เป็นพนักงานร้านเสื้อผ้า เหตุเกิดขณะกำลังเดินออกจากห้องน้ำเพื่อกลับไปทำงานที่ร้าน ซึ่งคนร้ายได้เข้ามาจากทางด้านหลัง เเล้วใช้มีดคัตเตอร์กรีดบริเวณใบหน้าด้านซ้ายโดยไม่ทันตั้งตัวจนเป็นบาดเเผลฉกรรจ์ จึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือเเล้ววิ่งเข้าไปหลบในร้านของตัวเอง 
.
ส่วนผู้บาดเจ็บอีกราย อายุประมาณ 20 ปี เป็นลูกค้าของห้าง กำลังเดินผ่านจุดเกิดเหตุพอดี ก็ถูกคนร้ายปรี่เข้าไปใช้มีดคัตเตอร์เล่มเดียวกันแทงเข้าที่บริเวณท้ายทอย ก่อนคนร้ายจะวิ่งหลบหนีอยู่ภายในห้าง เเละถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้ได้ในที่สุด 
.
จากการสอบสวนพบว่า ผู้บาดเจ็บเเละผู้ก่อเหตุไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ขณะที่ผู้ก่อเหตุให้การสับสนและวกวน ตำรวจจึงควบคุมตัวไปที่ สน.ปทุมวัน ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายธนาพร บุตรสี อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดลพบุรี ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบเคยถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด(ยาบ้า) จึงตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายเพิ่มเติมเเต่ไม่พบ 
.
หลังจากคุมตัวผู้ก่อเหตุมาห้องขังแล้ว นายธนาพร ก็เริ่มมีสติมากขึ้น และเริ่มให้การกับตำรวจ 
โดยบอกว่าไม่ได้รู้จักกับผู้บาดเจ็บทั้งสองรายมาก่อน เเละขณะก่อเหตุก็ไม่รู้ตัวว่าก่อเหตุไปได้อย่างไร 
ปัจจุบันตกงานกลายเป็นคนไร้บ้าน มักจะอยู่อาศัยและนอนตามสะพานลอยย่านสนามหลวง ซึ่งสาเหตุที่เดินเข้าไปในห้าง นายธนาพร อ้างว่าต้องการเข้าไปหางานทำ 
.
ต่อมาทางห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเวิลด์ได้โพสต์ชี้แจงเหตุการณ์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางทีมรักษาความปลอดภัยของศูนย์การค้าได้เข้าระงับเหตุและควบคุมตัวชายสติไม่ดีรายหนึ่งได้อย่างทันท่วงที ภายใน 5 นาที และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยศูนย์การค้าได้รีบนำผู้บาดเจ็บ 2 รายส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที และขณะนี้ได้รับการดูแลรักษาพยาบาลอย่างปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ทางศูนย์การค้ามีความพร้อมอย่างเต็มที่ด้วยมาตรฐานการปฏิบัติงานระงับเหตุที่รวดเร็วและเป็นระบบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้าที่มาใช้บริการ
.
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ -ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ระบุว่า เบื้องต้นพบความผิดชัดเจนคือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนข้อหาอื่น ๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันพรุ่งนี้ 

ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 19.00 น. ที่ สน.ปทุมวัน มีหนึ่งในผู้เสียหาย อายุยังไม่ถึง 20 ปี พร้อมครอบครัว ได้เดินทางมาเพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยพ่อของผู้บาดเจ็บ ได้ให้ข้อมูลว่า ครอบครัวได้เดินทางมาเที่ยวห้างกัน 3 คน พ่อเเม่ลูก ระหว่างที่กำลังเดินอยู่ในห้าง จู่ ๆ คนร้ายก็วิ่งมาก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์กรีดที่ท้ายทอยของลูกสาวเป็นบาดเเผลฉกรรจ์ต้องเย็บถึง 10 เข็ม ขณะนั้นตกใจมากเเละไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เเบบนี้ขึ้นในห้างหรูใจกลางเมือง และบอกว่า ตกใจผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่เเน่ชัดว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยของห้างหรูเป็นอย่างไร 
.
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่คิดเเจ้งความกับใคร ขอดูเเลความรู้สึกของลูกก่อน เพราะได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายเเละจิตใจ 
.
ด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ของห้างได้เดินทางมายัง สน.ปทุมวัน เพื่อชี้เเจงกับสื่อมวลชน โดยยืนยันว่าห้างมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยหลังเกิดเหตุพนักงานของห้างสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ภายใน 5 นาที เเละจึงเเจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดำเนินการ
.
ส่วนกรณีข้อสงสัยว่าการตรวจวัตถุอันตรายสามารถเข้ามาในห้างได้นั้น เบื้องต้นทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของห้างเเจ้งว่า อาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นมีดคัตเตอร์ เครื่องจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ เเต่หากเป็นมีดทำครัว หรืออาวุธมีดชนิดอื่นจะตรวจสอบได้ทันที ซึ่งกรณีนี้ทางห้างจะมีการสอบถามกับผู้ดูเเลระบบดูเเลรักษาความปลอดภัยของห้างอีกครั้งหนึ่ง เพื่อปรับปรุงป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก ส่วนผู้บาดเจ็บทางห้างจะมีการเยียวยาเเละรับผิดชอบต่อไป