ยังไม่สิ้นหวัง!ญาติทำพิธีขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาเปิดทางตามหาหนุ่มหนีโขลงช้างร่องหน(มีคลิป)

ยังไม่สิ้นหวัง!ญาติทำพิธีขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาเปิดทางตามหาหนุ่มหนีโขลงช้างร่องหน(มีคลิป)





ad1

ปราจีนบุรี-  ยังไม่สิ้นหวังหนุ่มหนีโขลงช้างป่า  ญาติทำพิธีขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขาและสิ่งศักดิ์ให้เปิดทางหวั่น!!!ช้างจะนำร่างคนที่เสียชีวิตลากไปกับพื้นออกจากจุดเกิดเหตุไปซ่อน

เมื่อวันที่    2  ม.ค.65 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงาน  จากกรณีที่มีหนุ่มสูญหายระหว่างเดินทางจาก จ.ฉะเชิงเทราข้ามฝั่งมายัง จ.ปราจีนบุรีพื้นที่รอยตะเข็บติดต่อ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของโขลงช้างป่านับ 100 ตัว   ที่แตกฝูงออกมาหากินมาอยู่ประจำ   มาไกลจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน  จ.ฉะเชิงเทราในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี)  โดยหายไปตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.64 พร้อมรถ จยย.พบเพียง รถจยย.จอดทิ้งไม่พบคนได้แจ้งความคนสูญหายและติดตามหากันแทบพลิกแผ่นดิน แต่ยังไม่พบตัวคาดว่าหนีโขลงช้างระหว่างเดินทาง  นั้น

 ล่าสุดตลอดเช้า จรดเกือบค่ำวันนี้  ( 2ม.ค.)   ญาติได้ออกค้นหาตัวนายทองสา   วันทุมมาอายุ43ปี     อยู่บ้านเลขที่19ม.
22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี     ที่หายตัวระหว่างทางป่ายางพารา   และไร่ยูคาลิปตัส   ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64ที่ผ่านมา      เมื่อวันที่ 27ธ.ค. 64 ตำรวจพบรถจักรยานยนต์ของผู้สูญหาย   จอดทิ้งวอยู่กลางป่ายางพารา   ทางญาติได้ให้หมอดูตรวจดูดวงชะตา     หมอดูบอกว่ายังมีชีวิตอยู่บริเวณดังกล่าว    อันเป็นเมืองซ้อนเมือง   หรือเมืองลับแลญาติได้ทำการบนบานศาลกล่าวไม่ถูกต้อง     จึงยังไม่ปล่อยตัวนายทองสาออกมา 

โดยจุดที่นายทองสาหายตัวไป    อยู่กึ่งกลางที่ทำงานและหมู่บ้าน     ที่ นายทองสามารับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัสกับญาติๆ  ที่บ้านหินแร่ ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทราพื้นที่รอยต่อกัน 2 จังหวัด      โดยใช้เส้นทางลัดผ่านไปสวนยางพารา   กับไร่ยูคาลิปตัสของเอกชน     ซึ่งมีเนื้อที่มากกว่า 1หมื่นไร่    ทางผ่านดังกล่าวจะเป็นซอยเหมือนตาหมากฮอสหรือเขาวงกต   ที่เหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก    ไม่รู้ว่าจะออกไปทางทิศไหน หากใครไม่เคยผ่านก็จะวนอยู่ในนั้นหาทางออกไม่เจอ    

 นายทองสาขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านหินแร่มาราว 10 กม.และมาสูญหายอยู่กลางป่ายางพาราและไร่ยูคาฯดังกล่าว ระยะทางจากจุดที่นายทองสาหายตัวไปห่างจากบ้านนายทองสา 8 กม.    หลายคนคิดตรงกันว่านายทองสามาพบโขลงช้างป่าระหว่างทาง    ด้วยความตกใจกลัวเห็นฝูงช้างฝูงใหญ่   ได้ทิงรถมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้และวิ่งหนีไปซ่อนตัวในป่าใกล้กัน     ฝูงช้างวิ่งไล่ต้อนจนหายตัว-หลงป่าไปอย่างไร้ร่องรอย

หลังจากที่ค้นหานายทองสาในรัศมี6กม.รอบบริเวณไม่พบตัว     จึงพากันมาค้นหาที่เถียงนาของนางทองสา    ซึ่งคิดว่าหากนายทองสาวิ่งหนีช้างอาจจะวิ่งมาที่เถียงนาของตนเอง    ซึ่งห่างจากหมู่บ้าน 2 กม.แต่ก็ไม่พบตัว    มีเพียงร่องรอยของช้างหลายตัวเดินเหยียบย่ำและทำลายกระท่อมนา    ของนายทองสาพังเสียหาย     รถจักรยานยนต์ของนายทองสาตำรวจได้นำไปไว้ที่สภ.วังคู อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา 

นางอำนวย เหลาเพียรหลานสาวนายทองสากล่าวว่าหลังจากแจ้งทางตำรวจว่าไงถึงจะหายตัวไปญาติได้ช่วยกันออกตามหานานกว่า 11   วันแล้ว   แต่ก็ยังไม่พบตัว    อยากวิงวอนขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยนำสุนัขสงครามมาช่วยค้นหา หากว่าผู้สูญหายสูญเสียชีวิตอยู่ ณบริเวณใดในป่า   ก็จะรู้ว่าอยู่ที่ใด ไม่รู้จะมีหน่วยงานไหนสนับสนุนหรือให้คำแนะนำกับการร้องขอสุนัขสงครามมาช่วยค้นหาคนสูญหายในครั้งนี้     อาจจะปรึกษาหารือกันค้นหาต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ค่อยหารือกันใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

วันนี้(2ม.ค.)   เป็นวันที่12     ที่นายทองสาที่ญาติได้ออกตามหาตัว   แต่ก็ยังไม่พบตัวนายทองสา     ทางญาติได้นิมนต์พระจากสำนักสงฆ์ป่าสมุนไพรเขาไม้แก้ว   อ.กบินทร์บุรี   มาทำพิธีจุดธูปเพื่อขอขมากรรม     ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ได้เจอนายทองสา แต่สุดท้าย   ก็ยังไม่พบตัวเช่นเดิม 

ยายลา ทุมวันมา(แม่)กล่าวว่า     อยากพบหน้าลูกเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับแม่   อยากเห็นลูกชาย    ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนเป็นตายร้ายดีอย่างไร ?    

ด้านนางวันนา (ขอสงวนชื่อและนามสกุล)   ชาวบ้านข้างเคียง    กล่าวว่า    “   เดือนที่ออกตามหาตัวนายทองสา    เห็นเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเดียวกันถูกช้างทำร้ายเสียชีวิตมาแล้ว 2 ราย    ลักษณะที่ถูกช้างทำร้ายนั้น     เสื้อผ้าจะขาดร่างกายผิดรูป    ช้างจะนำร่างคนที่เสียชีวิตลากไปกับพื้นออกจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 20 เมตร     ก็จะทำการหาใบไม้และขุดดินทับซ่อนศพ   เพื่อไม่ให้คนเห็น”นางวันนากล่าว