ศอ.บต.ผนึกผู้นำศาสนาจากสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 15 จว.ภาคใต้อยู่ร่วมกันสันติสุขพหุวัฒนธรรม

ศอ.บต.ผนึกผู้นำศาสนาจากสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 15 จว.ภาคใต้อยู่ร่วมกันสันติสุขพหุวัฒนธรรม





ad1

ปัตตานี -เลขาธิการ ศอ.บต. พบปะ ผู้นำศาสนาจากสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลาม 15 จังหวัดภาคใต้ เผยเป็นองค์กร ที่มีความสำคัญในการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ที่ ห้องน้ำพราว 1 โรงแรมซีเอส ปัตตานี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำ 14+1 จังหวัดภาคใต้ โดยมีนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี  รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี  ผศ.ดร.อะห์มัด อิสัน นายกสมาคมสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำ 14+1 จังหวัดภาคใต้ กรรมการบริหารสมาคมฯ ประธานสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลาและสตูล เข้าร่วม

สำหรับการประชุมสัมมนาสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำ 14+1 จังหวัดภาคใต้ในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงกิจการศาสนา การเผยแผ่และการชี้แนะ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย ประจำประเทศไทย โดยผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบไปด้วย คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 14 ภาคใต้ และเพิ่มเติมอีก 1 จังหวัดคือประจวบคีรีขันธ์ (14+1) โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารองค์กรมัสยิด และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน ให้ผู้นำในองค์กร ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยน ความรู้ ความคิด และหาข้อสรุปหรือข้อเสนอแนะเพื่อนำไปปฏิบัติ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก่อให้เกิดความผูกพันสามัคคีในการทำงานร่วมกัน

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า  การมาวันนี้มาในฐานะ หน่วยงานที่ดูแลบริหารจัดการการแก้ไขปัญหา  และพัฒนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้และมาในฐานะ ที่เป็นญาติพี่น้องของท่าน เนื่องจาก มีบทบัญญัติที่กล่าวไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน หลายบท หลายโองการที่บ่งบอกว่าเราล้วนมาจากคนคู่เดียวกัน กิจกรรมวันนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความเข้าใจ การอยู่ร่วมกันโดยการเคารพ และยอมรับในอัตลักษณ์และ วิถีชีวิตของประชาชนทุกหมู่เหล่า กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการดำเนินการภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงกิจการศาสนา การเผยแผ่และการชี้แนะ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

ซึ่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียถือได้ว่ามีคุณูปการอย่างยิ่งต่อราชอาณาจักรไทยในฐานะที่เป็นแหล่งกำเนิดศาสนาอิสลามของมวลมนุษยชาติทั้งหลาย เป็นสถานที่กำเนิดของท่านนบีมูฮัมหมัด เป็นสถานที่ให้ความรู้ อบรมบ่มเพาะศาสนาอิสลาม  สำหรับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดได้ถือกำเนิดขึ้นตามพระราชบัญญัติ การบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม      พ.ศ. 2540 มีหน้าที่มากมาย ซึ่งส่วนสำคัญที่สุดคือเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดในกิจการทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลการบริหารมัสยิด ตลอดจนให้คำแนะนำ ดำเนินงานทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน

สำหรับจังหวัดชายแดนภาคใต้ คณะกรรมการอิสลาม ถือว่ามีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ที่อยู่ร่วมกันมาอย่างยาวนาน การคลี่คลายการแก้ไขปัญหา คณะกรรมการอิสลาม ทุกจังหวัดได้ทำหน้าที่นี้อย่างดีตลอดมา ในการหนุนเสริม เชื่อมต่อ หรือลดช่องว่างในสังคม ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ในสังคมพหุวัฒนธรรม รวมทั้งได้ทำหน้าที่ในการให้ข้อคิด ข้อเสนอแนะ ต่อหน่วยงานของรัฐรวมทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สามารถดำเนินการเรื่องราวต่างๆได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม อาทิ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำเป็นต้องงดการร่วมกลุ่ม  เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

รวมถึงเรื่องของการฉีดวัคซีน ก็ได้รับความกรุณาจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดต่างๆในการสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ในส่วนของภาครัฐเอง ก็ได้สนับสนุนส่งเสริมกิจการศาสนาอิสลาม  การประกอบศาสนกิจทั้งภายในและต่างประเทศ รวมถึงได้มีการสนับสนุนอาหารกลางวันในโรงเรียนตาดีกา เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตลูกหลานให้ดียิ่งขึ้น คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดถือได้ว่าเป็นศูนย์รวม เป็นศูนย์กลางของผู้นำศาสนา เชื่อมั่นว่าในอนาคตข้างหน้า พี่น้องมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะเป็นปึกแผ่นและมีความสมัครสมานสามัคคีและอยู่ร่วมกันกับทุกศาสนิกได้อย่างมีความสุข