“ครูใต้” สมทบครูทุกภูมิภาค 200 คน ยื่นหนังสือที่รัฐสภา ค้าน “พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับนี้...”

“ครูใต้” สมทบครูทุกภูมิภาค 200 คน  ยื่นหนังสือที่รัฐสภา ค้าน “พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับนี้...”





ad1

“ครูใต้” สมทบครูทุกภูมิภาค 200 คน  ยื่นหนังสือที่รัฐสภา ค้าน “พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับนี้...”   ระบุไม่ตอบโจทก์เหมือนการศึกษา “เป็นร้านสะดวกซื้อ”  ที่กระจายไปทั่วประเทศ ให้ประชาชนได้ซื้อบริการ เลือกตั้งหนนี้ ครูใต้ “เดือดหนัก”  จะตอบโจทก์ หากมีการสนับสนุน พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ฉบับนี้

วันที่ 23 มกราคม 2565  เวลา 15.30 น. นายประทุม เรืองฤทธิ์ ประธานสมาพันธุ์ครูภาคใต้   เปิดเผยว่า   ทางแกนนำเครือข่ายครูภาคใต้จำนวน 10 คน ได้เดินทางไปสมทบกับองค์กรครู 4 ภูมิภาค จำนวน 200 คน  โดยมีองค์กรครูหลักของประเทศไทย องค์กรเครือข่ายครูแห่งประเทศไทย (คอท.) สมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (สคท.)  

ทั้งนี้เพื่อเดินทางไปยังรัฐสภา ทำการยื่นหนังสือคัดค้านร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ..... ที่แสดงเจตนารมณ์การคัดค้านเพื่อให้ได้รับแก้ไข ที่ขึ้นด้วยประเด็นต่าง ๆ ที่ยังบกพร่องอยู่นั้น  ซึ่งหวั่นเกรงว่าในการประชุมรัฐสภา จากผลที่กระทำด้วยความเร่งรีบนั้นทั้ง ๆ ที่ใกล้จะหมดวาระของสภาอยู่แล้ว 

และทั้งที่ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวนั้นก็ยังขาดความสมบูรณ์ที่ไม่ได้ตอบโจทย์ของการพัฒนาการศึกษาที่แท้จริงแต่อย่างใดและทั้งยังเป็นร่างพระราชบัญญัติ ที่มุ่งหวังต่อการควบคุมคนในเชิงโครงสร้างมากกว่าการที่จะกระจายอำนาจ  ซึ่งจะส่งผลให้รื้อถึงประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดของครูให้กลับคืนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง 

นายประทุม ยังกล่าวต่ออีกว่า  ผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคคลากรทางการศึกษา จึงเกิดความอ่อนไหวหวาดระแวงว่าในเส้นทางของการประกอบวิชาชีพที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ในเส้นทางของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นคุณต่อวิชาชีพ

“ความอ่อนไหวในการเปลี่ยนแปลงสภาพของการจัดการศึกษาที่เดิมนั้น เน้นในเชิงรัฐสวัสดิการให้กับปวงชนชาวไทยทุกคนอย่างทั่วถึงและอย่างเสมอภาค  ก็จะกลับมาเป็นให้รัฐซื้อบริการทางการศึกษากับเอกชน เหมือนกับการกระจายร้านสะดวกซื้อไปทั่วพื้นที่ให้ประชาชนได้เข้าซื้อบริการทางการศึกษา ตามกรอบที่วางเอาไว้ทีเดียว”  นายประทุม กล่าว 

ความอ่อนไหวในการรักษามาตรฐานทางวิชาชีพที่ทุกประเทศให้ความสำคัญกับมาตรฐานของผู้ประกอบวิชาชีพครู โดยมุ่งเน้นยกระดับทางวิชาชีพเพื่อดึงนักเรียนที่เก่งมาเรียนครูให้มากขึ้น  แทนที่จะไปเลือกเรียนสาขาวิชาชีพอื่น ซึ่งสามารถดำเนินการมาได้ระดับหนึ่ง  แล้วจะต้องหายไปในที่สุด 

นายประทุม กล่าวอีกว่า ดังนั้นการคาดหวังขององค์กรเครือข่ายครู ที่ต้องการเห็นและพร้อมที่จะเลือกทางเดินในการให้บทเรียนในการเลือกตั้งครั้งต่อไปในระยะเวลาที่ใกล้จะถึงนี้ 

“คือครูทางภาคใต้ ทั้งญาติพี่น้องครูลูกหลานครู จะไม่เลือกกับผู้ที่จะสนับสนุน พรบ.การศึกษาแห่งชาติ...ฉบับนี้” นายประทุม กล่าว.