"ลุงป้อม"ลุยขอนแก่นสั่งเร่งแผนพัฒนาแก้มลิงแก่งน้ำต้อน เพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำให้ชาวขอนแก่น

"ลุงป้อม"ลุยขอนแก่นสั่งเร่งแผนพัฒนาแก้มลิงแก่งน้ำต้อน เพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำให้ชาวขอนแก่น





ad1

ขอนแก่น-"ลุงป้อม" ยิ้มร่า ถูกสาวขอนแก่นหอมแก้ม พร้อมเชียร์ให้เป็นนายกคนที่ 30  สั่งเร่งแผนพัฒนาแก้มลิงแก่งน้ำต้อน เพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำให้ชาวขอนแก่น

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 ก.พ.2566  ที่วัดสายราษฏร์บำรุง บ้านป่าเหลื่อม ต.ดอนช้าง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน พร้อมอาคารประกอบ (ระยะที่ 1) อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดยมี นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย นายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ ,นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น,นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 นายพงศ์กรณ์ กำแหง ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 6 และผู้เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้  โดยมีประชาชนมนพื้นที่กว่า 1,000 คนมาร่วมต้อนรับ และผู้ผ้าขาวม้าคาดเอวให้รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีมีท่าทีและสีหน้าที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน พร้อมอาคารประกอบ อำเภอเมืองขอนแก่น  เป็นโครงการแก้มลิงขนาดใหญ่ และเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาแก้มลิงสองฝั่งลำน้ำชี โดยกรมชลประทานได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้น พร้อมวางแผนพัฒนาแหล่งน้ำที่มีอยู่เดิมให้สามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้นและช่วยป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น เนื่องจากแหล่งน้ำเดิมมีสภาพตื้นเขิน ในช่วงฤดูน้ำหลากมักเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณโดยรอบหนองน้ำ ขณะเดียวกัน ในช่วงฤดูแล้งก็มักจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากไม่มีอาคารบังคับน้ำ จึงไม่สามารถเก็บกักน้ำได้เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ ซึ่งมีแนวโน้มการใช้น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"สำหรับโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน พร้อมอาคารประกอบ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ แยกเป็น ระยะที่ 1 (พ.ศ.2564-2569) เป็นการขุดลอกแก้มลิงพร้อมอาคารประกอบ เพื่อเพิ่มความจุเก็บกักน้ำจากเดิม 7.43 ล้าน ลบ.ม. เป็น 35.02 ล้าน ลบ.ม. พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในอนาคต ส่วนในระยะที่ 2 แผนงานก่อสร้างปี พ.ศ.2568-2570 เป็นงานก่อสร้างสถานีสูบน้ำพร้อมระบบส่งน้ำ เพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทานประมาณ 35,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล 3 อำเภอ ได้แก่ ตำบลเมืองเก่า ตำบลดอนช้าง ตำบลบ้านหว้า อำเภอเมือง, ตำบลขามป้อม ตำบลพระยืน ตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน และตำบลบ้านเหล่า อำเภอฝาง ทั้งนี้ หากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งโครงการ จะเป็นแหล่งเก็บกักน้ำที่สำคัญของลำน้ำชี ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และมีน้ำสนับสนุนการเพาะปลูกสำหรับพื้นที่การเกษตรได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่นได้มากขึ้น"

ขณะที่ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่าจังหวัดขอนแก่นมีพื้นที่ - ลุ่มน้ำ ที่สำคัญคือ ลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล และแม่น้ำสำคัญ ประกอบด้วย แม่น้ำชี ลำน้ำพอง และลำน้ำเชิญ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่คือ เขื่อนอุบสรัตน์สถานการณ์น้ำโดยรวมของจังหวัดขอนแก่น มีปริมาณน้ำฝนรายปีเฉลี่ย 1,276มิลลิเมตรต่อปี และยังมีความจำเป็นต้องพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นอีก เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการการใช้น้ำ

"ส่วนสภาพปัญหาทรัพยากรน้ำจังหวัดขอนแก่น ในภาพรวมนั้น มีปัญหาหลัก 6 ประการ คือปัญหาอุทกภัย มักเกิดอุทกภัยในช่วงเดือน กันยายน - พฤศจิกายน ทั้งในเขตพื้นที่อำภอเมืองขอนแก่น และพื้นที่อำเภอโดยรอบ ซึ่งสาเหตุเกิดจากน้ำลันตลิ่ง และสภาพการระบายน้ำไหลออกจากพื้นที่ ค่อนข้างต่ำ และปัญหาภัยแล้ง ซึ่งพื้นที่เกิดภัยส่วนใหญ่อยู่ในโชนด้านทิศเหนือ และทิศใต้ของจังหวัด สาเหตุจากปริมาณน้ำฝนที่ค่อนข้างน้อย และแหล่งกักเก็บน้ำมีสภาพตื้นเชินไม่สามารถกักเก็บน้ำได้"

ผวจ.ขอนแก่น  กล่าวต่ออีกว่า  ได้ร่วมกับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประซาชนในพื้นที่ ร่วมกันก่อสร้างฝ่ายขนาดเล็กเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่ กว่า 300 แห่ง กระจายอยู่ตามลำน้ำสาขาต่างๆ ซึ่งจังหวัดขอนแก่น
“ขอขอบคุณรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ที่ได้อนุมติงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการด้านการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชอนแก่น ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิเช่น งบกลาง งบประมาณตามแผนงานบูรณาการและงบประมาณของส่วนราชการ ซึ่งโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่กรมชลประทานได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 350 ล้านบาท ดำเนินการในพื้นที่จังหวัด ระหว่างปี 2564-2567 เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถเพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำจากเดิม สามารถบรรเทาและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างดียิ่ง

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้ายังดำรงตำแหน่งอยู่ จะไม่ทำให้ขอนแก่นแล้ง  ส่วนการพัฒนาพื้นที่แก่งน้ำต้อนนั้นก้าวหน้าไปมาก และอยากจะบอกว่ารัฐบาลพยายามจัดงบประมาณให้ทุกหน่วยงานนำไปแก้ไขปัญหาแล้งให้ประชาชน  เพราะการบริหารจัดการน้ำอุปโภค บริโภคนั้น มีคสามำคัญมาก

“ในช่วงหน้าแล้งนี้ ทุกพื้นที่ห้ามแล้งเด็ดขาด แล้วยังต้องป้องกันน้ำท่วมด้วย และในพื้นที่เมืองขอนแก่นนั้น ห้ามน้ำท่วมในเขตเมืองหรือเขตเศรษฐกิจเด็ดขาด   แต่ก็ต้องเก็บกักน้ำให้เพียงพอต่อเพื่อการเกษตร ประชาชนจะต้องไม่เดือดร้อน และรัฐบาลมีเป้าหมายในการบริหารงาน  ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน และในอนาคตประชาชนจะต้องไม่มีความเดดือดร้อนในเรื่องแล้ง รัฐบาลจะสร้างรากฐานความแข็งแรงให้ประชาชนอยู่ดีมีความสุข”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนเดินทางกลับรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินเข้าพบปะประชาชนที่มารอต้อนรับ โดย ประชาชนบางคนเดินเข้ามากอดมาหอม  บางคนก็เบะปากใส่ 

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆว่า รู้สึกพอใจกับโครงการแก้มลิงแก่งน้ำต้อน พร้อมอาคารประกอบ (ระยะที่ 1)เป็นอย่างมากและจะเร่งให้เสร็จภายในปี 2568 ขณะที่การที่ชาวบ้านต้องการให้ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นั้น  ประชาชนก็ต้องเลือกสิ