ตำรวจบุกรวบหัวหน้าเขตราชเทวี เรียกรับสินบน 3.2 ล้าน แลกเลี่ยงภาษี 40 ล้าน

ตำรวจบุกรวบหัวหน้าเขตราชเทวี เรียกรับสินบน 3.2 ล้าน แลกเลี่ยงภาษี 40 ล้าน





ad1

ตำรวจ ปปป.ร่วม ป.ป.ช.และ ป.ป.ท.รวบหัวหน้าฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี เรียกรับสินบน 3.2 ล้าน แลกเลี่ยงภาษีให้ 40 ล้าน ยังปากแข็งปฏิเสธ อ้างไม่รู้เงินสดอยู่ในซอง คิดว่าเป็นเอกสาร

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 4 เมษายน 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.พร้อมด้วย นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการ ปปง. นายเฉลิมพล เทพนุชิต รอง ปลัด กทม. พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ร่วมแถลงผลการจับกุมนายประมวล แสงแก้วศรี อายุ 57 ปี หัวหน้าฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบเพื่อกระทําการมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” หลังนำกำลังจับกุมตัวได้บริเวณลานจอดรถ โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายประมวล เป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี แต่กลับใช้อํานาจในตําแหน่งหน้าที่ในทางไม่เหมาะสม เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเริ่มจากการแจ้งเตือนไปยังบริษัทฯ ของผู้เสียหายรายหนึ่ง ให้เข้ามาชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน ประมาณ 40 กว่าล้านบาท แต่หากยอมจ่ายเงินให้ตนเองจํานวน 3 ล้านบาท จะเก็บเรื่องดังกล่าวไว้ ทําให้ บริษัทฯ ไม่ต้องชําระเงินภาษีจํานวน 40 ล้านบาท ก่อนที่ต่อมาจะมีการเพิ่มจำนวนเงินค่าดำเนินการเป็น 3.5 ล้านบาท อ้างว่าต้องเอาไปแบ่งกรรมการคนอื่นอีกหลายท่าน

จากนั้นได้มีการต่อรองราคาลดลงเหลือ 3.2 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายมองว่าพฤติกรรมเช่นนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และตัวของผู้เสียหายเองยังพร้อมที่จะจ่ายภาษีถูกต้องตามกฎหมาย จึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าร้องขอให้มีการตรวจสอบ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องได้จัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนเชื่อว่าน่าจะมีพฤติกรรมดังกล่าวจริง จึงวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินไปส่งมอบให้กับนายประมวล ตามที่เรียกร้อง โดยนัดหมายส่งมอบกันที่โรงแรมในพื้นที่พญาไท กระทั่งเมื่อถึงเวลานัดหมาย พบ นายประมวล ได้ขับรถยนต์ของสำนักงานเขต เดินทางมายังที่ดังกล่าวเพื่อรับส่งมอบเงิน เมื่อเห็นว่ามีเรียกรับเงินจริงเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมพร้อมเงินของกลางได้ดังกล่าว

สอบสวน นายประมวล ให้การปฏิเสธ อ้างไม่ทราบว่าสิ่งของที่อยู่ในซองเอกสารที่ผู้เสียหายนำมาส่งมอบให้นั้นเป็นเงินสด คิดว่าเป็นเพียงซองเอกสารเท่านั้น ก่อนนำตัวส่ง พงส.กก.1 บก.ปปป. แจ้งข้อกล่าวหา พร้อมเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อนําส่งสํานวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป