"เศรษฐา" ย้ำเลิกเกณฑ์ทหาร ยกระดับประชาชน ฉงน! ไพบูลย์ คือใคร

"เศรษฐา"แคนติเดตนายกรัฐมนตรี นำทีมเพื่อไทย หาเสียงย่านบางนา ย้ำเลิกเกณฑ์ทหาร รักชาติมีได้หลายอย่าง พร้อมยกระดับประชาชน ขอบคุณคำวิจารณ์ ฉงน ไพบูลย์ คือใคร

เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2566 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายวราวุธ ยันต์เจริญ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและรับฟังปัญหาในพื้นที่นิรันดร์คอนโด 93 ย่านบางนา เพื่อช่วยนายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตพระโขนง บางนา เบอร์ 3 พรรคพท.หาเสียง โดยมีประชาชนในพื้นที่รอให้การต้อนรับและให้กำลังใจอย่างอบอุ่น

นายเศรษฐา กล่าวว่าขอบคุณผู้ที่ออกมาวิจารณ์นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล เพราะเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เราในตัว สำหรับเรื่องเกณฑ์ทหารเชื่อว่าคนในพื้นที่มีลูกหลานต้องไปเกณฑ์ทหาร แต่เชื่อว่าหลายคนไม่ได้อยากไปเป็นทหาร ที่สำคัญสถาบันทหารเป็นสถาบันที่มีเกียรติ แต่การบังคับเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แล้วจะหาว่าคนที่ไม่เห็นด้วยกับการเกณฑ์ทหารไม่รักชาตินั้นไม่ถูก

เพราะการแสดงออกถึงการรักชาติมีหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นทหารอย่างเดียว ขอย้ำว่าการยกเลิกการเกณฑ์ทหารเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราให้ความสำคัญ เพราะการเป็นทหารต้องไม่เกิดจากการบังคับ สำหรับเรื่องสิทธิการรักษาในพื้นที่บางนาที่มีโรงพยาบาลปิดหลายแห่ง จนประชาชนต้องเดินทางไปใช้สิทธิต่างพื้นที่นั้น

หากพรรคพท.ได้เป็นรัฐบาลเราจะยกระดับนโยบาย 30 บาท บัตรประชาชนใบเดียวใช้ได้ทุกโรงพยาบาล ทั้งนี้ มีประชาชนถามว่าหากไม่ได้เป็นนายกฯจะรับตำแหน่งอื่นได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.ก่อน และถ้าหากหลังการเลือกตั้ง พรรคเห็นว่าแคนดิเดตนายกฯ คนอื่นเหมาะสมมากกว่า ตนก็ไม่ได้ไปไหนยังคงเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม

จากนั้นนายเศรษฐาพร้อมคณะเดินทางด้วยรถสองแถวไปยังท่าน้ำสรรพาวุธ เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่บริเวณดังกล่าว และรับฟังความคิดเห็นการพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวติดแม่น้ำเจ้าพระยา มีประชาชนรอให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

นายเศรษฐา กล่าวกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับว่า วันที่ 14 พ.ค.จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ขอให้เข้าคูหาเลือกพรรคพท. ที่เราชนะเลือกตั้งมาตลอด 20 ปี เพราะสามารถทำนโยบายให้เป็นจริงได้ตลอด

ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีกระเป๋าเงินดิจิทัลเพราะกลัวแพ้ ใครมาโจมตีอย่ายอม 10,000 บาทถึงกระเป๋าคนอายุ 16 ปีขึ้นไปทั้งหมดแน่นอน สำหรับนโยบายการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าของพรรคเพื่อไทย มีนโยบาย 20 บาทตลอดทั้งสาย

จากนั้นนายเศรษฐาและคณะเดินทางต่อไปยังศูนย์ประสานงานพรรคพท.เขตสวนหลวง-ประเวศ(หนองบอน) ซอยพัฒนาการ 35 เขตสวนหลวง เพื่อพบปะผู้ประกอบการ SME ร่วมพูดคุยหัวข้อ “สวนหลวง-ประเวศแลนด์สไลด์ สะเทือนถึงดวงดาวปลดปล่อยศักยภาพเศรษฐกิจไทย” โดยมีนายเศรษฐา ปานปรีย์ พหิทธานุกร คณะทำงานด้านนโยบายเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายธกร เลาหพงศ์ชนะ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตสวนหลวง ประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน) และนายอรรฆรัตน์ นิติพน ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตประเวศ (ยกเว้นแขวงหนองบอน) เขตสะพานสูง (เฉพาะแขวงทับช้าง) ร่วมพูดคุย

นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ภายหลังพบปะประชาชนเกี่ยวกับปัญหาที่พบเห็นในวันนี้ว่า สิ่งสำคัญคือต้องพัฒนาเรื่องการเดินทางข้ามเขต เพราะประชาชนต้องไปรักษาตัวตามสิทธิการรักษานอกเขตอยู่ นโยบายของพรรคพท.ที่จะยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค จะทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น และอีกปัญหาที่ได้รับฟังคือเรื่องยาเสพติด ยืนยันพรรคพท.ไม่เอากัญชา เรายึดหลักใช้กัญชาเพื่อการแพทย์อย่างเดียว

เมื่อถามถึงกรณีนายเกียรติ สิทธีอมร คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้ง 5 คำถามเกี่ยวกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่มาของเงิน และมองว่าเป็นการแจกเงินแบบเบี้ยหัวแตก นายเศรษฐา กล่าวว่า การที่คนอื่นพูดถึงนโยบายถือเป็นเรื่องดี เราได้ประชาสัมพันธ์

แต่เรื่องคำถามของพรรคประชาธิปัตย์นั้นตนยังไม่เห็นเพราะอยู่ระหว่างลงพื้นที่ มั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น ที่มีการตั้งข้อสังเกตเป็นเบี้ยหัวแตกนั้น นโยบายปัจจุบันคือให้ทีละ 500 700 แต่ของเราแจกทีเดียวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนที่มีการตั้งขอสังเกตเรื่องหุ้นของแสนสิรินั้น มองว่ายิ่งไปกันใหญ่ไม่ได้เกี่ยวกัน ตนไม่ห่วงเรื่องเหล่านี้เพราะสามารถชี้แจงได้

เมื่อถามถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่านายไพบูลย์คือใคร หน้าที่ตนเวลานี้คือการเผยแพร่นโยบายให้ประชาชนรับฟังข้อคิดเห็น ถ้ามีอะไรปรับเสริมเติมแต่งเรื่องนโยบายตนจะจัดการเพราะคือเรื่องใหญ่