เริ่มแล้ว "Pattani Festival"วิถีใหม่ ประจำปี 2566 กระตุ้นเศรษฐกิจ-ส่งเสริมการท่องเที่ยว

เริ่มแล้ว "Pattani  Festival"วิถีใหม่ ประจำปี 2566 กระตุ้นเศรษฐกิจ-ส่งเสริมการท่องเที่ยว





ad1

เริ่มแล้ว "Pattani  Festival" งานแสดงสินค้า ศิลปวัฒนธรรม และงานประจำปีจังหวัดปัตตานี วิถีใหม่ ประจำปี 2566 กระตุ้นเศรษฐกิจ-ส่งเสริมการท่องเที่ยว ผสมผสานศิลปวัฒนธรรมและของดีพื้นถิ่นให้เป็นที่รู้จัก

เมื่อค่ำคืนวันที่ 16 มิถุนายน 2566 เวลา 19.00 น. ที่ เวทีกลาง สวนจ้าวทะเล ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้า ศิลปวัฒนธรรมและงานประจำปีจังหวัดปัตตานี วิถีใหม่ ประจำปี 2566 โดยมี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. สมาชิกเหล่ากาชาด หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม

จังหวัดปัตตานีได้บูรณาการความร่วมมือในการจัดงานจากทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ หน่วยงานต่าง ๆ ภาครัฐ เหล่ากาชาดจังหวัดปัตตานี องค์กรภาคเอกชน และองค์กรภาคประชาสังคม ได้พร้อมใจกันจัดงาน ภายใต้ชื่อ "งานแสดงสินค้า ศิลปวัฒนธรรม และงานประจำปี จังหวัดปัตตานี วิถีใหม่ ประจำปี 2566" หรือ "มหกรรมจังหวัดปัตตานี (Pattani Festival)" กำหนดจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ จำนวน 12 วัน 12 คืน ระหว่างวันที่ 16- 27 มิถุนายน 2566 ณ สวนจ้าวทะเล ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ "เพื่อคืนความสุขให้กับคนปัตตานี"

ภายหลังจากที่ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ประสบปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนเป็นอย่างมากในปีนี้จังหวัดปัตตานีจึงจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งเสริมและสนับสนุนทุนทาง วัฒนธรรม ศิลปวัฒนธรรมในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และของดี OTOP สินค้าภาคการเกษตร รวมทั้ง เพื่อส่งเสริม ยกระดับประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและของดีพื้นถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร กล่าวว่า จังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพียบพร้อมไปด้วยแหล่งประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวิถีชีวิต ที่หลากหลายดั่งคำขวัญ จังหวัดปัตตานี ที่ว่า "เมืองงามสามวัฒนธรรม ศูนย์ฮาลาลเลิศล้ำ ชนน้อมนำศรัทธาถิ่นธรรมชาติงามตา ปัตตานีสันติสุขแดนใต้" สำหรับรูปแบบและกิจกรรมการจัดงานแสดงสินค้า ศิลปวัฒนธรรมและงานประจำปีจังหวัดปัตตานี วิถีใหม่ ประจำปี 2566" (Pattani Festival) เป็นที่น่ายินดีว่าทุกภาคส่วนของพื้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมและคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นในพื้นที่ ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวส่งเสริมผลิตภัณฑ์สินค้าภาคเกษตร ส่งเสริมอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของจังหวัดปัตตานี และจะได้ช่วยกันจัดหารายได้ให้เหล่ากาชาดจังหวัดปัตตานีนำไปใช้ในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ในการช่วยเหลือ ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อน ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมและช่วยเหลือกิจกรรมเหล่ากาชาดจังหวัดปัตตานีต่อไป

ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อให้ชาวปัตตานีและนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรม ได้ทั้งความสนุกสนาน ความสุข และความรู้ อาทิ การจัดบูธนิทรรศการแสดงผลงานและให้ความรู้ของส่วนราชการและอำเภอ จำนวน 28 บูธ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์และสินค้าทางการเกษตรต่าง ๆ เกษตรแปรรูป ที่เน้นเกษตรปลอดภัย การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์ จากกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในพื้นที่ กิจกรรมขบวนแห่อัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม จากทั้ง 12 อำเภอ มีการแสดงแสงสีเสียงจากศิลปินที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ ตลอดทั้ง 12 คืน เช่น โตโน่ & The Dust, หญิงลี ศรีจุมพล, วงธารารัตน์, การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง การประกวดธิดาบานง การประกวดอานาซีด
การประกวดบาสโลบ การเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไทยพื้นถิ่น ภายในงาน Pattani Music Festival "ดนตรีวิถีถิ่น กลิ่นอายมลายู" กิจกรรมการออกร้านนาวากาชาด และบริเวณงานยังได้มีการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม อีกด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการแสดงผลงานและให้ความรู้ของส่วนราชการและอำเภอ รวมถึงนิทรรศการ "100 ปี หลักรัฐประศาสโนบาย ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6" น้อมนำ สืบสาน สู่การปฏิบัติ" ของ ศอ.บต. เพื่อเทิดพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ที่ทรงมีคุณูปการต่อจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการวางรากฐานนำคนดีเข้ามาพัฒนาบ้านเมือง ซึ่งกำหนดจัดนิทรรศการสัญจร ณ งานกาชาดและศาลากลางในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย