ทางหลวงชนบทมุกดาหารพร้อมจ่ายเงินเวนคืนให้กับประชาชนส่วนที่เหลือ 25 %

ทางหลวงชนบทมุกดาหารพร้อมจ่ายเงินเวนคืนให้กับประชาชนส่วนที่เหลือ 25 %





ad1

มุกดาหาร - การก่อสร้างถนนสาย มห.3019 จังหวัดมุกดาหาร เชื่อมสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 2 คืบหน้าไปแล้วกว่า 61 %  และทางหลวงชนบทพร้อมจ่ายเงินเวนคืนให้กับประชาชนส่วนที่เหลือ 25 % ส่วนชาวบ้านที่ยังไม่ทำการรังวัดที่ดินให้เร่งดำเนินการเพื่อจะได้รับเงินเวนคืนที่เหลือ

จากกรณีชาวบ้านโพนทราย ตำบลโพนทราย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ได้เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมมุกดาหาร ว่าโครงการเพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบทดังกล่าว ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เวนคืนที่ดินในท้องที่ ต.โพนทราย เพื่อสร้างถนนสายดังกล่าว โดยกรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการจ่ายเงินทดแทนค่าเวนคืนไปแล้ว 75% โดยส่วนที่เหลืออีก 25% จะจ่ายให้แก่ชาวบ้านเมื่อได้ทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่กรมทางหลวงเสร็จเรียบร้อย และส่วนที่เหลือ 25 % ชาวบ้านยังไม่ได้รับ  และชาวบ้านได้ฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

นางนิศามณี ประชานันท์ บ้านเลขที่ 180 หมู่ 3 ตำบลโพนทราย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า  เงินค่าเวนคืนที่ดินที่เหลือ 25%  ได้ยื่นฟ้องศาลปกครองไปแล้ว ตอนนี้รอหนังสือจากศาลปกครอง ไม่ได้ยื่นฟ้องที่ศาลมุกดาหาร เพราะว่าไม่มีเงินค่าทนาย และไม่มีเงินไปวางที่ศาล ก็เลยรวมตัวกันกับลูกหลานไปยื่นฟ้องที่ศาลปกครองจังหวัดมขอนแก่น ตั้งแต่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา การสร้างถนนดังกล่าว กระทบกับร้านขายของของตนเองและลูกสาว ไม่มีรายได้ก็เลยหนีไปอยู่ตามท้องไร่ท้องนา หาซื้อที่ติดถนนใหญ่ไม่ได้ อยากได้ที่ดินติดถนนเพื่อจะได้ทำมาหากิน และราคาสูงมาก ๆ ไร่ละล้านบาท ยังไม่มีคนขายให้ ลูกหลานจะได้ที่มาทำมาหากิน ตอนนี้ไม่มีโอกาส

 นายจำรัส ชัยมณี  ผอ.แขวงทางหลวงชนบทภูเก็ต รักษาราชการแทน ผอ.แขวงทางหลวงชนบทมุกดาหาร  กล่าวว่า  ด้วยความห่วงใยของอธิบดีกรมทางหลวงชนบท  ได้รับทราบว่า ทางราษฎรในส่วน 25 % หลังครั้งที่ 2 ยังไม่ได้รับเงิน ท่านเลยเร่งรัดที่จะเบิกจ่ายให้ โดยตอนนี้เงินที่สามารถจ่ายได้เลย 27.9 ล้านบาทเศษ ที่จะจ่ายในครั้งนี้ ทั้งหมด 52 ราย ครั้งที่ 1 มีรายการประกอบด้วย 25 % เนื้อที่ที่ดินที่ถูกเวนคืนเพิ่มขึ้น และทางราษฎรบางส่วนอุทธรณ์  อุทธรณ์แล้วมีผลและจะได้ดอกเบี้ยอุทธรณ์ และดอกเบี้ยที่ค้างจ่ายทั้งหมด และเงินในครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 27.9 ล้านบาทเศษ ในก้อนที่ 2 กรมทางหลวงชนบทมีเงินอยู่แล้ว 22 ล้านบาทเศษ แต่ว่ามันติดอยู่นิดเดียวว่า เงินก้อนนี้มันเป็นกิจกรรมอื่น กรมทางหลวงชนบทจะต้องทำเรื่องตกลงกับสำนักงานงบประมาณ เพื่อขอแก้ไขเงิน เพื่อสำหรับเบิกจ่ายแก่ผู้ถูกเวนคืนในรอบที่ 2 ซึ่งมีจำนวนประมาณ 35 ราย คาดว่าจะเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2566 

นายจำรัส ชัยมณี  กล่าวอีกว่า ส่วนราษฎรที่ฟ้องศาลปกครอง ราษฎรรายนั้นถ้ามีผลรังวัด 25% แล้วด้านหลังโฉนดที่ดินมีการแบ่งแยก โดยเจ้าพนักงานที่ดินชัดเจน รายนั้นอาจจะอยู่ในรอบที่ 1 ที่กำลังจ่ายอยู่ในขณะนี้ หรืออาจจะอยู่ในกลุ่มที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะจ่ายได้ภายในเดือนสิงหาคม 66   เส้นทางนี้ มห.3019 ระยะทางทั้งสิ้น 14 กม.เศษ ขณะนี้ก่อสร้างแล้วประมาณ 61 % คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานได้ภายในเมษายน 2567  ส่วนราษฎรบางรายที่รับเงินไปแล้ว 75 %  ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 25 %  เป็นหน้าที่ของราษฎรทุกท่านที่จะต้องไปยื่นแบ่งแยกโฉนดที่ดิน หรือรังวัดโฉนด กับสำนักงานที่ดินจังหวัดมุกดาหาร เพื่อที่จะโอนที่ดินที่รังวัดให้แก่กรมทางหลวงชนบท ถ้ารายใดยังไม่ไปยื่นก็ขอให้รีบไปยื่น กรมทางหลวงชนบทจะจ่ายค่ารังวัดให้ด้วย ถ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เอาเรื่องมายื่นที่แขวงทางหลวงชนบทมุกดาหารโดยด่วน ทางแขวงทางหลวงชนบท จะเบิกเงินนั้นมาจ่ายให้ท่านโดยเร็วที่สุดต่อไป ในกลุ่มนี้มีเงินอยู่ประมาณ 11 ล้านบาทเศษ

ด้าน นายอนุสรณ์ โพธิ์ศิริ ทนายความ กล่าวว่า  จังหวัดมุกดาหารได้งบประมาณเวนคืนที่ดินตาม พ.ร.บ.เวนคืนที่ดิน ท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลบางทรายใหญ่ โดยปี 2564 มีการจ่ายเงินงวดแรกให้กับประชาชนที่ถูกเวนคืน จ่ายงวดแรก 75 % ของแต่ละรายหลังจากนั้นจะมีการจ่ายงวดที่ 2 ในปี 2565 ทางกรมทางหลวงได้มีการอนุมัติจ่ายเงินมา แล้วประชาชนไม่ได้รับเงิน จากนั้นก็ได้มีการร้องเรียนไปหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่ได้รับเงิน จนกระทั่งมีการฟ้องร้อง โดยทางกลุ่มผู้ร้องเรียนได้ดำเนินการฟ้องร้องกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวงชนบท และแขวงทางหลวงชนบทมุกดาหาร

ทนายความ กล่าวอีกว่า  หลังจากนั้น ทางแขวงทางหลวงชนบท โดย ผอ.จำรัส ชัยมณี ที่ย้ายมาก็คิดตามว่า เงินจำนวนนี้ไปไหน ทั้งที่ทางกรมเขาอนุมัติมาแล้ว ทำไมไม่จ่ายให้กับประชาชน ทาง ผอ.ก็ได้ประสานมาทางทนายความ ว่าทางกรมมีเงินให้แล้ว พร้อมที่จะจ่ายเงิน วันนี้ก็เลยนักกันกับ ผอ. มาจ่ายเงินให้กับ บริษัทสหเรืองไปทั้งหมด 3 คดี  โดยในนามบริษัทและนามส่วนบุคคล จ่ายแล้วได้ถอนฟ้องไปแล้ว ส่วนอีกคดีก็ทำสัญญาประนีประนอมยอมความจ่ายมาบางส่วนจะจ่ายในงวดที่ 2 และจะจ่ายให้กับประชาชนที่ทางบริษัทดำเนินการให้ทั้งหมด 34 ราย และประชาชนบางกลุ่มที่มีรายชื่อมารับเช็ค ก็จะทยอยมารับ โดยทางแขวงทางหลวงชนบทเป็นคนเรียกประชาชนมารับด้วยตนเอง โดยจะจ่าย 2 งวด ไม่เกิน 31 สิงหาคม 2566..

ทั้งนี้ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) รายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย มห.3019 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 ถึง บ้านบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งปัจจุบันผลงานการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 61 % 

จากนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านงานทาง เพิ่มขีดความสามารถในด้านการขนส่ง รองรับการขยายตัวของเมือง ส่งเสริมทั้งด้านการค้า การท่องเที่ยว การพัฒนาจังหวัดที่อยู่ใกล้กับบริเวณเขตชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเป็นการสนับสนุนเขตเศรษฐกิจชายแดน (Special Economic Zone : SEZ) ทช.จึงได้ดำเนินการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย มห.3019 ระยะทางรวม 14.211 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 804.159 ล้านบาท มีจุดเริ่มต้นโครงการบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (กม.ที่ 781+000) และไปสิ้นสุดโครงการที่บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (กม.ที่ 414+262) ซึ่งใน 4 กิโลเมตรแรกของโครงการ จะดำเนินการขยายถนนทางหลวงชนบทสาย มห.3019 เดิม จาก 2 ช่องจราจร เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร

จากนั้นในส่วนที่เหลือจะดำเนินการก่อสร้างถนนใหม่ทั้งหมดจนไปถึงจุดสิ้นสุดโครงการเชื่อมกับสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 2 โดยก่อสร้างเป็นถนนผิวจราจรแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 4 ช่องจราจร ไป - กลับ มีไหล่ทาง พร้อมสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 4 แห่ง ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง เครื่องหมายจราจรและสิ่งอำนวยความปลอดภัยเมื่อโครงการดังกล่าวก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 

นอกจากจะเป็นเส้นทางสนับสนุน SEZ รองรับการเจริญเติบโตของเมืองมุกดาหารในอนาคตแล้ว ยังเป็นเส้นทางที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการขนส่งระหว่างนิคมอุตสาหกรรมกับสะพานมิตรภาพไทย – ลาว  แห่งที่ 2 สู่ประเทศลาว  รวมทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดในตัวเมืองให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยอย่างยั่งยืนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การดำเนินการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย มห.3019 ระยะทางรวม 14.211 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 804.159 ล้าน มุ่งรองรับการขยายตัวของเมือง เพิ่มศักยภาพด้านการขนส่ง สนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คาดแล้วเสร็จและเปิดใช้งานประมาณเดือนเมษายนปี 2567  

โดย...อนุศักดิ์ - เสาวภา  แสนวิเศษ // มุกดาหาร