ท่องเที่ยวชุมชน ยลเสน่ห์วิถีถิ่น @ นครนายก "One day trip"มาแล้วต้องหวนมาเยือนอีก

ท่องเที่ยวชุมชน ยลเสน่ห์วิถีถิ่น @ นครนายก "One day trip"มาแล้วต้องหวนมาเยือนอีก





ad1

หนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง มนุษย์เงินที่คิดจะพักผ่อนเติมเต็มชีวิต ชาร์จแบตเตอรี่ชีวิตให้มีพลังงานกลับมาสู้งานต่อ หากคุณอยากเที่ยวหลากหลายรูปแบบแต่มีเวลาไม่เยอะ อยากแนะนะไปเที่ยวแบบ "One day trip" ที่นี่ก็เป็น 1 ทางเลือกนั่นคือ จังหวัดนครนายก เป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดัง จากความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์และภูมิอากาศของพื้นที่ ความอุดมสมบูรณ์ทางด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงที่ตั้งเมืองรองที่ใกล้กรุงเทพฯ การเดินทางที่สะดวกทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวอย่างแพร่หลาย

นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครนายก 

นายราเมศ ลิ่มสกุล วัฒนธรรมจังหวัดนครนายก กล่าวว่า การเปิดพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในรูปแบบการท่องเที่ยวสร้างการเรียนรู้ใหม่ๆ สัมผัสวิถีชุมชน ความใกล้ชิดท่ามกลางธรรมชาติ และกิจกรรมความหลากหลายอัตลักษณ์วัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า มิติการท่องเที่ยวชุมชนจึงเป็น อีกทางเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่ได้รับกระแสความนิยมของนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามแล้ว จังหวัดนครนายกยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นจากฐานทุนในความหลากหลายทางชาติพันธุ์

เมื่อวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2566 มีการจัดกิจกรรมทดลองเปิดเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนแห่งใหม่ ให้นักท่องเที่ยวเรียนรู้และสร้างประสบการณ์สุดประทับใจจาก ๓ ชุมชนคุณธรรมฯ ต้นแบบ ได้แก่ ชุมชนท่องเที่ยววัดฝั่งคลอง ชุมชนท่องเที่ยววัดคีรีวัน และชุมชนท่องเที่ยวบ้านวังรี เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวชุมชนให้ประชาชนผู้สนใจ นักท่องเที่ยวในพื้นที่และนอกจังหวัด ให้รู้จักอย่างแพร่หลาย นำสู่การท่องเที่ยวในมิติทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน เสริมสร้างรายได้แก่ประชาชน ชุมชน และเศรษฐกิจหมุนเวียนภาพรวมของจังหวัดนครนายกต่อไป

1 ใน 3 เส้นทางที่เราได้ร่วมกิจกรรมคือคือชุมชนท่องเที่ยววัดคีรีวัน โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายเริ่มจากการเที่ยวชมวัดคีรีวัน

วัดคีรีวัน เป็นวัดเก่าแก่ มีพระแก้วมรกตองค์จำลองขนาดใหญ่ ทำจากเรซิน ประดิษฐานอยู่ที่พระวิหารบนยอดเขา ในสมัยก่อนวัดนี้เคยอยู่กลางทุ่งมาก่อน และได้ย้ายวัดไปอยู่ที่เขากะเหรี่ยง เดิมชื่อ วัดสว่างอารมณ์ ต่อมาวัดนี้จึงได้ย้ายไปอยู่ที่ภูเขาแห่งใหม่ และตั้งชื่อวัดใหม่ว่า วัดคีรีวัน โดยมีพระครูคีรีวนานุกูลโอภาโส (หลวงพ่อรี) เป็นเจ้าอาวาสประจำวัดแห่งนี้

วัดคีรีวัน ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีนาวา อำเภอเมือง จ.นครนายก ไปตามทางถนนนครนายก-ท่าด่าน ห่างจากอำเภอเมืองนครนายก 9 กิโลเมตร

มีกิจกรรมขอพรกับหลวงพ่อโพธิ์1,000 ปี พระพุทธรูปปางนาคปรกแกะจากไมต้น้ โพธิ์ที่ประดิษฐานปราสาทขอมองค์ใหญ่ ด้วยการถวายทุงใยเป็นพุทธบูชาและสักการะแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยังถือว่าเป็นพระแก้วองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเลือกซื้อสินค้าภูมิปัญญาท้อง

จากนั้นได้นำเข้าสู่ลานวัฒนธรรมไทยเวียงวัดคีรีวัน มีการแสดงจากชาวบ้านในชุมชน มีการสาธิตและให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมทำขาม อาหาร ทักทอ มัดย้อม และ ร่วมรับประทานอาหารเที่ยงสำรับโตกแบบชาวไทยเวียง สูตรอัตลักษณ์ ดั้งเดิม โดยมี นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครนายก มาร่วมกิจกรรมกับนักท่องเที่ยวในครั้งนี้

จากนั้นเดินทางไปศาลเจ้าพ่อหินตั้ง ไหว้สักการะขอพร เจ้าพ่อหินตั้ง ที่มีลักษณะเป็นกองหินกลางทุ่งนาความมหัศจรรย์ของ ธรรมชาติที่เสกสรร หินธรรมชาติกอ้นใหญ่กว่า20 คนโอบ เป็นเกาะเล็กๆที่ล้อมรอบด้วยนาข้าวมีต้นไม้ร่มรื่นโอบทิวทัศน์​รอบศาลเจ้าพ่อเป็นทุ่งนาและทิวเขารอบๆ ทำให้สวยงาม ร่มรื่น และมีความแปลกอยู่ตรงที่มีก้อนหินใหญ่กินหนึ่งตั้งหมิ่นเหม่จะหล่น แต่ไม่หล่น 

จุดที่3ที่เราเดินทางไปคือภูกะเหรี่ยง ตั้งอยู่ในตำบลศรีนาวา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ในบรรยากาศที่ร่มรื่น จุดเด่นใครมาต้องชอบนั่นคือ สะพานไม้ที่ทอดยาวไปกลางทุ่งนาอันเขียวขจี นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านรัตนจัน พิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่ได้สะสมข้าวของเครื่องใช้ในอดีต ทั้งเครื่องมือทำเกษตรกร ช่างไม้และแพทย์แผนโบราณ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่วางจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรและหัตถกรรมที่ผลิตโดยบ้านภูกระเหรี่ยงและสมาชิกของกลุ่มผู้ผลิตหลายรายในจังหวัดนครนายก รวมถึงเป็นร้านอาหารและร้านกาแฟอีกด้วย

เมื่อมาถึงมีการต้อนรับนักท่องเที่ยวดว้ยน้ำต้นข้าวอ่อนชมการสาธิตและลงมือ พุดดิ้งยาคูที่กวนจากต้นข้าวอ่อนของขาข้าวหอมมะลิอายุ 14 วัน ทานคู่กับน้ำ กะทิโรยข้าวพองและงาดำที่ทุกบอกว่าอร่อยและสนุกสนานกันมาก และจบด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านรัตนจันพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่ได้สะสมข้าวของเครื่องใช้ในอดีต ทั้งเครื่องมือทำเกษตรกร ช่างไม้และแพทย์แผนโบราณ 

นักท่องเที่ยวต่างได้รับความรู้คู่ความสนุกสนาน ก่อนที่จะขึ้นรถตู้แยกย้ายกันกลับกรุงเทพมหานคร เก็บกลับด้วยความประทับใจที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครนายก “ท่องเที่ยวชุมชน ยลเสน่ห์วิถีถิ่น @ นครนายก” ใน One day trip

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครนายก ได้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ สื่อวีดิทัศน์และแผ่นพับประชาสัมพันธ์เส้นทางและแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของชุมชน และร่วมกิจกรรม พร้อมรับของที่ระลึก เพื่อสร้างกระแสกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดนครนายกเพิ่มมากขึ้น และเพื่อใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่ชุมชนจังหวัดนครนายก ซึ่งกิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยวนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนและกลุ่มชาติพันธุ์ จังหวัดนครนายก ภายใต้วิถีชีวิตใหม่ New Normal ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖” โดยได้รับการสนับสนุนจากจังหวัดนครนายก

วัฒนธรรมจังหวัดนครนายก กล่าวว่า สถานที่ท่องเที่ยวชุมชน มรดกแห่งวัฒนธรรมและวิถีชีวิต คือความภาคภูมิใจของชุมชน ทั้ง ๓ ชุมชน เชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้สนใจร่วมสัมผัส ผ่านกิจกรรม “ท่องเที่ยวชุมชน ยลเสน่ห์วิถีถิ่น @ นครนายก” มีกิจกรรมระหว่างเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนที่น่าสนใจรอรับนักท่องเที่ยวและบริการอย่างประทับใจ