ตำรวจเร่งล่าโจรอ้วน-ผอม บุกปล้นบ้านหนุ่มใหญ่-จ่อยิงดับ ชิงทอง 7 บาท เผ่นลอยนวล

ตำรวจเร่งล่าโจรอ้วน-ผอม บุกปล้นบ้านหนุ่มใหญ่-จ่อยิงดับ ชิงทอง 7 บาท เผ่นลอยนวล





ad1

สุพรรณบุรี-โจรอ้วน-ผอมสุดเหี้ยม บุกยิงหนุ่มใหญ่ด้วย 9 มม. เป็นศพคาบ้าน แถมฉกสร้อยทอง 2 เส้น หนักรวม 7 บาท หลบหนีลอยนวล เบื้องต้นตำรวจสันนิฐานฆ่าชิงทรัพย์ แต่ยังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งอย่างอื่นทิ้ง เพราะผู้ตายเป็นคนกว้างขวางในพื้นที่ รอผลการสืบสวนชัด-ล่าตัวดำเนินคดี  

ร.ต.อ.อนุรุต นวมทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ศรีประจันต์  ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 29 ส.ค.2566เหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 4 ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วรภพ จำปาเงิน ผกก.สภ.ศรีประจันต์, พ.ต.อ.พีระ อัศวะพิบูลย์ ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี, เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีประจันต์, กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี, สืบสวน ภ.7, ตำรวจชุด พฐ.ภ.จว.สุพรรณบุรี, มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี, และแพทย์เวร รพ.ศรีประจันต์

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวพบศพ นายวันเฉลิม สายหยุด อายุ 42 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณกกหูข้างขวา กระสุนปืนไปตุงอยู่ที่บริเวณลำคอ 1 นัด เลือดไหลนองพื้น นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 2 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามทราบว่า คนร้ายมาด้วยกัน 2 คน ลักษณะอ้วนร่างใหญ่ 1 คน และผอม 1 คน ขับขี่รถ จยย.ไม่ทราบทะเบียน ใช้ผ้าปกปิดใบหน้า บุกเข้ามาภายในบ้านถามหาทองคำ จากนั้นพบผู้ตายนอนดูทีวีอยู่ในห้องนอน จึงใช้ปืนที่พกติดตัวมาด้วยยิงใส่ 2 นัด จนเสียชีวิตดังกล่าว จากนั้นได้หยิบสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท 1 เส้น และ 2 บาท 1 เส้น ที่แขวนอยู่บนหัวเตียงหลบหนีไป

ด้าน นายกุศ รักสนิท ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 เล่าว่า ตนได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายมี 2 คน เป็นผู้ชายทั้งคู่ คนยิงเป็นคนรูปร่างท้วมตัวใหญ่ พอมาถึงก็ยืนคร่อมผู้ตายแล้วเอาปืนจ่อ พอผู้ตายตื่นมาก็พูดว่า "วันนี้กูไม่เล่นกับมึง วันนี้ไม่สบายจะนอน" จากนั้นคนร้ายก็ยิงแล้วถามว่าทองอยู่ไหนให้เอามา หลังคนร้ายหยิบทองไปได้จึงยิงซ้ำอีก 1 นัด ซึ่งภรรยาผู้ตายสายตาสั้น จึงมองไม่ค่อยเห็น กว่าจะหาแว่นเจอสามีก็ถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นคนร้ายทำท่าว่าจะหันปืนมายิงฝ่ายหญิง แต่ก็ไม่ได้ยิง ซึ่งตนก็ไม่มั่นใจว่าคนร้ายเป็นพวกกันหรือเปล่า เพราะตอนที่คนร้ายมาถึงที่เกิดเหตุ ก็เดินตรงไปที่ห้องนอนเลยแล้วยิงผู้ตาย ทั้งที่ในบ้านหลังนี้มีอยู่หลายห้อง คนร้ายน่าจะเป็นคนที่เคยเข้ามา คิดว่าเจตนาที่เอาทองไปนั้นแค่ฉากบังหน้า ทำเหมือนมาปล้นทอง ซึ่งต้องรอให้ตำรวจสอบสวนอีกที

ด้าน นางทองฮวด ชาวน่าน อายุ 70 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนเข้าไปในครัวกำลังจะทำไก่นึ่ง ทีแรกได้ยินเสียงดังเหมือนอะไรหล่นลงมา จากนั้นได้ยินครั้งที่ 2 ก็คิดว่าลูกชายคนโตจุดประทัด จากนั้นเดินออกมาจากครัวแล้วเห็นลูกสะใภ้วิ่งออกมาจากห้องเข้ามากอด แล้วพูดว่าลูกชายตนถูกยิง เราก็ไม่คิดว่าใครจะเข้ามายิง นึกว่าลูกยิงตัวเอง ซึ่งก่อนที่ตนจะเดินเข้าไปภายในครัวยังเรียกให้ลูกไปปิดบ้านให้ จากนั้นก็ตนก็เข้าไปนึ่งไก่ไม่ถึง 10 นาที ลูกก็ถูกยิงเสียชีวิต

"ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่า มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร พี่น้องและชาวบ้านแถวนี้เขาก็รักกันดี ไม่คิดว่าลูกจะมีอะไรกับใครที่ร้ายแรงถึงขนาดนี้ เพราะลูกมีแต่คนรัก ตนไม่สันนิษฐานอะไรเลย เพราะไม่คิดว่าจะมีคนคิดร้ายกับลูกขนาดนี้  อยากให้ตำรวจรีบจับคนร้ายให้ได้ เพราะอยากรู้ว่าที่ทำไปเพื่ออะไร อยากได้อะไรก็เอาไปเลย ขอแค่เรื่องอย่าเอาชีวิต ถ้าจับคนร้ายได้จะไม่อโหสิกรรมให้ใครทั้งสิ้น อยากถามว่าทำเพื่ออะไรอยากได้อะไรก็เอาไป ไม่เสียดายเลย คนที่ยิงถามลูกสะใภ้ว่าทองอยู่ไหน ถ้าเอาของนอกกายไปจะไม่เสียใจเลย อยากได้เอาไปเลย มาขอดีดีก็ให้เลย อย่ามาทำร้ายมาฆ่ามาแกงกันแบบนี้ เปิดร้านมา 20 ปี ไม่เคยเกิดเหตุร้ายอะไรเลย" แม่ผู้ตาย กล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เพื่อเร่งติตดามตัวมาดำเนินคดี ส่วนศพผู้ตายนั้น ถูกส่งไปชันสูตรตามขั้นตอนกฎหมายที่สถาบันนิติเวช เบื้องต้นสันนิฐานว่า เป็นการฆ่าชิงทรัพย์ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งอย่างอื่นทิ้ง เพราะผู้ตายเป็นคนกว้างขวางในพื้นที่ ซึ่งต้องรอผลการสืบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนสรุปสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป