ชาวมุสลิม 5 พันคนแห่ร่วมอาลัยในพิธีฝังศพ"ท่านอาศิส"มัสยิดสงขลา

สงขลา-ชาวมุสลิม 5,000 คนร่วมอาลัย ในพิธีฝังศพ “อาศิส พิทักษ์คุมพล” จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา ประธานองคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญดินพระราชทานและวางพวงมาลาของพระบรม วงศานุวงศ์หน้าหลุมศพ ขณะที่คณะกรรมการกลางอิสลามฯเผยมีมติร่วมกันที่จะนำร่าง "อาศิส"ฝังไว้บริเวณด้านหน้ามัสยิดฯเป็นร่างแรก เพื่อเป็นศูนย์รวมใจชาวมุสลิม

คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และ ครอบครัวนายอาศิสเคลื่อนร่างนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 อยู่ในโลงไม้ตบแต่งอย่างเรียบง่าย ออกจากบ้านเลขที่ 45 ซอยควนสันติ 1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปยังมัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา เมื่อไปถึงทุกภาคส่วนต่างรอรับด้วยความอาลัย เจ้าหน้าที่ช่วยกันเคลื่อนโลงหามขึ้นมายังโถงกลางภายในมัสยิดฯ ส่วนบริเวณหน้ามัสยิดฯ เจ้าหน้าที่ขุดหลุมเตรียมจัดพิธีฝังศพ จากนั้นนายซากีย์ พิทักษ์คุมพล สมาชิกวุฒิสภา เป็นบุตรชายนายอาศิส พร้อมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาและชาวมุสลิมรวม 5,000 คน ร่วมพิธีละหมาดญะนาซะห์เพื่อขอพรให้ผู้เสียชีวิต

ต่อมาเวลา 11.00 น.วันที่ 23 ต.ค.2566 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญดินพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และวางพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์หน้าหลุมศพเพื่อร่วมไว้อาลัย และเป็นเกียรติแก่ผู้เสียชีวิต มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และคณะผู้บริหารร่วมพิธีดังกล่าวด้วย

จากนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ เดินไปที่หน้าหลุมศพ เจ้าหน้าที่นำกระทงข้าวตอกดอกไม้มาเตรียมไว้ ผู้แทนพระองค์หยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้และดินพระราชทานวางบนหลุม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนสมเด็จพระสังฆราช วางดินประทานหน้าหลุมศพ เจ้าหน้าที่นำโลงศพลงหลุมและตักดินปิดหลุม ผู้ร่วมงานยืนสงบนิ่งร่วมไว้อาลัย

ด้านนายวิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย มีมติร่วมกันที่จะนำร่างนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีคนที่ 18 ฝังไว้บริเวณด้านหน้ามัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลาเป็นร่างแรก เนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญผู้ทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ เพราะจุฬาราชมนตรีคือ ผู้นำกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย ทำหน้าที่ถวายคำปรึกษาด้านศาสนาอิสลามแก่พระมหากษัตริย์ และเป็นที่ปรึกษารัฐบาล

อีกทั้งนายอาศิสยังเป็นผู้รับพระราชดำริจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ผลักดันการก่อสร้างมัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลาจนแล้วเสร็จ กระทั่งสามารถใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจเป็นศูนย์รวมใจของพี่น้องมุสลิม รวมถึงยังเป็นที่ตั้งศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามภาคใต้ และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสงขลา

ส่วนชาวมุสลิมที่มาร่วมอาลัยเปิดเผยว่า รู้สึกอาลัยกับความสูญเสียในครั้งนี้ เพราะนายอาศิสคือความภูมิใจของชาวสงขลา ท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในด้านศาสนาอิสลาม อีกทั้งยังเชี่ยวชาญในภาษาอาหรับ ยาวี บรูไน และอินโดนีเซีย เป็นที่ยอมรับของสังคมทั่วไป