ชัยภูมิถอดบทเรียนมาตรการป้องกันคนร้ายก่อเหตุรุนแรงในชุมชนและสถานศึกษา

ดร.กอบภณ  แสงสมบัติ ศึกษาธิการจังหวัดชัยภูมิ ร่วมประชุมถอดบทเรียนเพื่อเตรียมมาตรการป้องกันเหตุกรณีผู้ป่วยจิตเวชที่ก่อความรุนแรงในชุมชน และสถานศึกษา

จากกรณีที่มีผู้ป่วยจิตเวชก่อความรุนแรงในโรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจากที่ครูรักษาการโรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.20 น. มีชายเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ขับรถจักรยานยนต์ พร้อมถือมีดตัดอ้อย บุกเข้าไปยังโรงเรียนบ้านน้ำพุหินลาด ต.ทุ่งนาเลา อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พร้อมตะโกนเสียงดังและใช้มีดที่นำติดตัวมา ไล่ฟันครูและเด็กนักเรียน ขณะเด็กนักเรียนกำลังเข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธง ครูได้สั่งให้เด็กนักเรียนรีบวิ่งหนี เพื่อหลบซ่อนตัว ได้มีคุณครูธวัชชัย ด้วงธรรม ครูสอนวิชาพละ ได้ต่อสู้กับชายคลุ้งคลั่ง ได้รับบาดเจ็บที่มือและแขนเล็กน้อย นักเรียนทุกคนปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บ

และได้มีชาวบ้านตะโกนเรียกทำให้ก่อนผู้ก่อเหตุตกใจและหนีไปซ่อนตัวที่ บ้านพักของผู้ก่อเหตุเอง อยู่หน้าโรงเรียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญู คอนสาร เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคอนสาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คอนสาร เข้าเกลี้ยกล่อมกว่า 1 ชม. ก่อนควบคุมตัวส่งรักษา รพ.คอนสาร ทราบชื่อต่อมา คือนายเริงฤทธิ์ อายุ 37 ปี  หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้ ก็นำส่งโรงพยาบาล เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางโรคจิต ขณะที่โรงพยาบาลคอนสารได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด และส่งตัวต่อที่โรงพยาบาลภูเขียว และอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั้น

ทั้งนี้นายสมบัติ  ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการนจังหวัดชัยภูมิ ประธานในที่ประชุม พร้อมนางสาวอรอาภา  โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ประชุมด่วน มีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ปลัดจังหวัดชัยภูมิ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ศึกษาธิการจังหวัดชัยภูมิ โรงพยาบาลชัยภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 2 นายอำเภอคอนสาร ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรคอนสาร สาธารณสุขอำเภอคอนสาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคอนสาร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านน้ำผุหินลาด  ประชุมหารือเพื่อหาแนวทาง มาตรการร่วมกันในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก ณ ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ

ซึ่งในเบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมผู้นำชุมชน และนักจิตวิทยา ลงพื้นที่ดูแลสภาพจิตใจนักเรียนและครูในโรงเรียน และเพิ่มมาตรการเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ