รับศพ หนุ่มโรงงานถูกมัดมือฆ่า ทิ้งศพข้างทาง ตั้งสวดบำเพ็ญกุศล
จากกรณีที่จนท.ตำรวจ สภ.บางประกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พบศพชายวัย 33 นอนเสียชีวิต แต่งกายสวมเสื้อแขนยาวสีดำ สวมกางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีม่วง ถูกเชือกมัดมือ มัดเท้าและมีบาดแผลบริเวณกลางศีรษะ ถูกโยนร่างทิ้งไว้ที่บริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ ขาเข้า กทม. ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทร คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าผู้เสียชีวิต คือ นายธนาสันต์ เตอั้น อายุ 33 ปี อยู่ที่หมู่ 5 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยออกจากบ้านพักย่านแพรกษา ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม เวลาประมาณ 22.06 น. เพื่อออกไปทำงานและได้หายตัวไปพร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีเทา ทะเบียน 3ขฐ 1489 กรุงเทพมหานคร โดยขี่รถ รถจยย.ออกมาจากบ้านเพื่อไปทำงานโดยขี่รถมาจอดที่บริเวณกิ่งแก้ว ริมถนนเทพรัตน(บางนา-ตราด) กม.12 ขาเข้ากทม. เพื่อเดินข้ามสะพานลอยเพื่อขึ้นรถบัสาทำงานที่นิคมอมตะนคร ชลบุรี และมาพบเป็นศพอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ บริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ กม.41+100 ขาเข้ากทม. หมู่ 10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 มกราคม 2567 ที่ ศาลา แย้มเหมือน วัด คลองปลัดเปรียง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ น.ส.วรรณาพร หลักแหลม อายุ 33 ปี ภรรยา ผู้ตาย พร้อมญาติ ได้รับศพนายธนาสันต์ เตอั้น อายุ 33 ปี สามี จากนิติเวช มาตั้งมาบำเพ็ญกุศล จำนวน 5 วัน โดยจะเผาวันอาทิตย์ ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า บรรดาเพื่อนและญาติต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเกิดเหตุการณอย่างนี้ได้อย่างไร ทั้งที่คนตายเป็นคนดี ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ รักครอบครัว
จากการสอบถาม น.ส.วรรณาพร หลักแหลม ภรรยา กล่าวว่า เหตุสามีถูกฆ่าเป็นการชิงทรัพย์หรือไม่ เพราะมีทรัพย์สินหายไป รถจักรยานยนต์ โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ หายไป โดยตนติดต่อกับแฟนตนครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงตีห้า ของวันอาทิตย์ ที่ 27 มกราคม 2567 โดยแชทคุยกันเรื่องที่แฟนของตนยอมรับว่า ทำผู้หญิงท้อง และทักมาขอเลิกกับตน ก่อนที่ตนจะพยายามสอบถามถึงเหตุผล จนกระทั่ง ไม่สามารถติดต่อแฟนของตนได้ จนตนเดินทางไปแจ้งความคนหายที่ สภ.บางปู เพื่อให้ช่วยตามหา ก่อนจะพบเป็นศพ ส่วนสาเหตุนั้นตนก็ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น โดยปกติแฟนตนไม่มีศัตรูกับใคร นิสัยดี ไม่เล่นการพนัน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่
โดยวันเกิดเหตุสามีได้ออกจากบ้านพักย่านแพรกษา ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 22.06 น. เพื่อเดินทางออกไปทำงานและได้หายตัวไปพร้อมรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีเทา ทะเบียน 3 ขฐ 1489 กรุงเทพมหานคร โดยขี่รถ รถจยย.ออกมาจากบ้านเพื่อไปทำงานโดยขี่รถมาจอดที่บริเวณใต้สะพานข้ามถนนบางนาตราด ริมถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.12 ขาเข้า กทม. เพื่อเดินข้ามสะพานลอยเพื่อขึ้นรถบัสไปทำงานที่นิคมอมตะนคร ชลบุรี แต่วันดังกล่าวสามีไม่ได้ขึ้นรถไปทำงาน ตนคิดว่าน่าจะเกิดเหตุก่อนเดินทางถึงที่จอดรถดังกล่าว
ด้าน พ่อเลี้ยงผู้ตาย เล่าว่า เขาไม่เคยทะเลาะกับใคร ชาวบ้านก็รักเขาหมด ผู้ตายยกมือไหว้ทุกคนในซอยเดียวกันทุกครั้งที่ไปทำงานและกลับมา มีกับข้าวก็ทำแบ่งกันกินเมื่อเช้าตนออกมาจากบ้านไม่มีใครเชื่อเลยสักคนว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว เขาไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใคร ตนก็เดาไม่ถูกว่าที่เขาถูกกระทำจนตายเพราะอะไร
ด้านพล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า คดีนี้สอบปากคำภรรยา เพื่อนร่วมงาน และผู้เกี่ยวข้อง ไปแล้ว 7-8 ปาก และตรวจสอบไล่กล้องตามเส้นทางตั้งแต่บ้านที่ผู้ตายออกมา ว่าเค้าไปไหนบ้าง กับใคร อย่างไร ส่วนสภาพศพขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันบาดแผลได้ว่า ที่ศีรษะของผู้ตายถูกอาวุธชนิดใด ต้องรอผลจากทางนิติเวช ส่วนสาเหตุทางทีมสืบสวนยังไม่ตัดประเด็นประเด็นใดทิ้งแต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากเรื่องส่วนตัวของผู้ตาย
