ทลายแก๊ง ลัก-ชิง จยย.ราคาแพง อุกอาจจี้กลางถนน ยกขึ้นกระบะตู้ทึบ

ทลายแก๊ง ลัก-ชิง จยย.ราคาแพง อุกอาจจี้กลางถนน ยกขึ้นกระบะตู้ทึบ





ad1

ผบช.ภ.7 นำแถลงจับแก๊งลักจยย.ราคาแพง “เอ็กซ์แม็กซ์-พีซีเอ็กซ์” ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ผู้ต้องหา 6 คน มือโจรกรรมล้วนแล้วแต่เป็นเยาวชน บางครั้งหากเจอเป้าหมายกลางถนนก็จะจี้เอาไปดื้อๆ ยกขึ้นรถกระบะตู้ทึบหลบหนี  

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 67 ที่หน้าสำนักงานตำรวจภาค 7 อ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี, พ.ต.อ.จิระเดช ชมภูนิตย์ ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว, ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครปฐม, สืบสวน สภ.นครชัยศรี, ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์แก้ว ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งลักทรัพย์รายใหญ่ ก่อเหตุมาแล้วถึง 15 คดี พร้อมยึดของกลาง จยย. 4 คัน รถกระบะตู้ทึบ 2 คัน จับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน

ผู้ต้องหาที่จับกุมได้ 6 คน 1.นายธนากร กิตติกรดำรงกุล อายุ 33 ปี 2.นายอธิปัตย์ อินทร์อยู่ อายุ 32 ปี 3.นายบูม อายุ 17 ปี 4.นายเปี๊ยก อายุ 17 ปี 5.นายโฟล์ค อายุ 16 ปี 6.นายไอซ์ อายุ 17 ปี แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร จับกุมผู้ต้องหาลำดับที่ 1 ได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.เคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. จับกุมผู้ต้องหาลำดับที่ 2 บริเวณริมถนน ทล.37 กม.ที่ 40 (ขาเข้า) ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และจับกุมผู้ต้องหาที่ 3-6 ที่สภ.นครชัยศรี หมู่ 3 ต.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เผยถึงพฤติการณ์แห่งคดี ว่า สืบเนื่องจากในห้วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 ได้มีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์รถจยย.ของประชาชนในพื้นที่ จังหวัดนครปฐม และอำเภอใกล้เคียงจำนวนมาก มีการแจ้งความไว้ตาม สภ.ต่างๆ จนผิดสังเกต และส่วนใหญ่รถที่ถูกลักไปนั้นเป็นจยย.ราคาสูงร่วม 2 แสนบาทก็มี เกินกว่า 2 แสนก็มี ทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนหวาดกลัว จึงได้สั่งการให้ ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ มาดำเนินคดีให้จงได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเดือดร้อนของประชาชน

กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 67 พ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดสืบสวน สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุลักทรัพย์รถ จยย. 3 คัน ในเขตพื้นที่ อ.นครชัยศรี เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 67 โดยกล้องวงจรปิดจับภาพ นายธนากร กิตติกรดำรงกุล อายุ 33 ปี ซึ่งทำหน้าที่ขับรถกระบะตู้ทึบ มารอรับนำรถ จยย.ที่คนร้ายลักมาขับเข้าไปซ่อนไว้ในตู้ทึบกระบะ ซึ่งรถจยย.ตรงกับรูปพรรณของรถจยย.ที่ถูกลัก เมื่อตามตรวจสอบจากกล้องพบว่ารถ กระบะคันดังกล่าวหลังจากที่เอารถ จยย.ขึ้นตู้ทึบแล้ว ขับมุ่งหน้าไปยังจ.เลย จึงรวบรวมหลักฐานขอนุมัติศาล จ.นครปฐม ออกหมายจับกุมตัว นายธนากร ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเคหะร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กทม. และพบนายธนากร กำลังขับรถออกมาเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท.ร่มเกล้า จึงแสดงหมายจับเข้าจับกุมตัวพร้อมรถกระบะตู้ทึบโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 2 ฒฬ 8839 กทม. นำตัวมาสอบสวน

นายธนากร ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อนอีก 5 คน ก่อเหตุลัก จยย.โดยคัดเลือกเอารถ เช่นรถ จยย.ราคาแพง และกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดเพื่อนบ้านประเทศลาว เช่น ยามาฮ่า เอ็กซ์แม็กซ์ ซึ่งมีราคาท้องตลาดร่วม 2 แสนบาท และ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ราคากว่าแสนบาท เป็นต้น โดยใช้รถกระบะตู้ทึบ 2 คัน เมื่อลักรถมาแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ตามหอพัก หรือวิ่งตามถนนก็จะประกบใช้ปืนจี้ชิง เมื่อได้รถมาจะนำซุกซ่อนในรถกระบะตู้ทึบ เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับ โดยทำร่วมกับพวกอีก 5 คนเป็นทีม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแบ่งกำลังออกตามล่าตัวจนได้ครบ 5 คน โดยมีนายอธิปัตย์ อินทร์อยู่ อายุ 32 ปี 1 ใน 5 คนร้ายที่เป็นคนขับรถกระบะตู้ทึบ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน 2 ฒว 5830 กทม. ส่วนอีก 4 คนนั้นอายุต่ำกว่า 18 ปี ทั้งสิ้น ทำหน้าที่ลักรถจยย. 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ทั้งหมด พร้อมยึดรถของกลาง จยย. 4 คัน รถกระบะตู้ทึบ 2 คัน ผู้ต้องหายังรับสารภาพอีกว่า รถที่ลักมาจำนวน 15 คัน ในพื้นที่ สภ.นครชัยศรี 4 คัน ในพื้นที่ สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน 4 คัน ท้องที่ สภ.บางเลน 4 คัน และพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม 3 คัน เหลืออยู่ 4 คัน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาได้ ซึ่งกำลังจะส่งขายยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยส่งขายในราคาคันละ 8 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาท ส่วนอีก 11 คันนั้นส่งไปขายแล้ว ทั้งนี้ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7  ได้สั่งให้ตำรวจตรวจสอบว่าแก๊งคนร้ายลักรถ ที่ถูกก่อเหตุในพื้นที่อื่นมีอีกหรือไม่ เพราะเชื่อว่าแก๊งนี้เป็นแก๊งใหญ่ น่าจะมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังให้ทำการขยายผล และให้ติดตามรถ จยย.ที่ถูกคนร้ายลักไป ว่าไปขายที่ใดบ้างเพื่อนำกลับคืนเจ้าของ ต่อไป.