เตือน 19-20 มี.ค. หลายจังหวัดรับมือ "พายุฤดูร้อน"ถล่ม

เตือน 19-20 มี.ค. หลายจังหวัดรับมือ "พายุฤดูร้อน"ถล่ม





ad1

"กรมอุตุนิยมวิทยา" ประกาศฉบับที่ 5 เตือน "พายุฤดูร้อน" ช่วงวันที่ 19-20 มี.ค.นี้ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง พร้อมเผยรายชื่อจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่อง "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 5" มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-20 มีนาคม 2567 โดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 19-20 มีนาคม 2567 บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด 

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในระยะแรก โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง 

สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน และระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย โดยจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้

วันที่ 19 มีนาคม 2567
ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

วันที่ 20 มีนาคม 2567
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และตาก

ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม

ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

ทั้งนี้ จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.