แม่ค้าหวยเศร้า!!ถูกญาติเชิดเงินซื้อลอตเตอรี่กว่าแสนโร่แจ้งความให้คู่กรณีชดใช้คืน


อุทัยธานี - ป้าเศร้า!!ไม่เป็นอันจะขายหวย หลังถูกภรรยาลุงแท้ๆ เชิดเงินซื้อลอตเตอรี่ไปแสนกว่าบาท วอนนำเงินมาคืนด้วย
เมื่อเวลา 10:30 น ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนางสาวฐายิกา ชัยศิริ อายุ 46 ปี พักอาศัยอยู่ ม.5 ต.หนองฉาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ซึ่งตกเป็นผู้เสียหายสูญเงินไปแสนกว่าบาท โดยนำเอกสารหลักฐานมาเปิดเผย ว่าถูกแม่ค้าขายลอตเตอรี่ด้วยกันชื่อนางเอ นามสมมุติ อายุ 53 ปี ซึ่งสักเป็นภรรยาของลุงแท้ๆของตนเอง ถูกให้ร่วมซื้อลอตเตอรี่แบบเล่ม รวมทั้งหวยชุดและแบบเป็นใบเดี่ยว ในราคาถูก ด้วยราคาช่วงแรก 80บาท หากซื้ออีกก็จะลดราคาถึง 75 บาท
โดยอีกฝ่าย อ้างกับตนเองว่า หากนำไปขายจะได้กำไรดี ตนเองก็เชื่อคำพูดและไว้ใจ จึงนำเงินโอนไปให้อีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายอ้างว่าเงินที่ได้มานั้น ต้องไปซื้อกับแม่ค้าอีกคนหนึ่ง เหมือนกับอีกฝ่ายได้เป็นแม่ค้าคนกลางขายให้กับตนเอง โดยตนเองเริ่มซื้อขายกับอีกฝ่ายตั้งแต่ปลายปี 2567 ถึง มกราคม 2568 ด้วยราคา 80 บาท ช่วงแรกอีกฝ่ายก็นำลอตเตอรี่มาให้ตนเองขายครบ และตรงกับเงินที่จ่ายไป จนทำให้ตนเองเชื่อถือ ตนเองก็เริ่มซื้อขายกับอีกฝ่ายมาเรื่อย
จนกระทั่งถึงเดือนพฤษภาคม 2568 ตนเองได้ตกลงซื้อลอตเตอรี่กับอีกฝ่ายอีกครั้งด้วยเงินประมาณ 250,000 บาท แต่ได้ลอตเตอรี่หวยกลับมาส่วนหนึ่งเพียง 500 ใบ เป็นจำนวนเงิน 37,500 บาท เหลืออีก 177,500 บาท ที่อีกฝ่ายยังไม่ยอมจ่ายคืนให้ ตนเองก็ได้พยายามทวงแล้วทวงเล่า จนอีกฝ่ายบ่ายเบี่ยงไปเรื่อย ล่าสุดอีกฝ่ายอ้างว่าไม่มี ได้นำเงินไปจ่ายอย่างอื่นหมดแล้ว ทั้งนี้ตนเองก็เดือดร้อน เพราะเป็นเงินที่ตนเองก็หยิบยืมเค้ามาเหมือนกัน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับทางสามีของอีกฝ่ายซึ่งเป็นลุงแท้ๆของผู้เสียหาย ชื่อนายดุสิต อายุ 53 ปี อยู่จ.เลย พึ่งเดินทางมาจ.อุทัยธานี ได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นสามีกับของอีกฝ่าย แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วยกัน หลังจากที่ตนเองได้ทราบเรื่องแล้วก็อดเป็นห่วงหลาน ที่สูญเงินเป็นแสน และที่ผ่านมาตนเองก็ไม่ทราบเรื่องมาก่อน แต่ก็เคยได้ยินประวัติของภรรยามาแล้วซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีคนมาทวงเงินค่าลอตเตอรี่ ทั้งนี้หากภรรยาทำผิด และเป็นหนี้ก็ควรจ่าย หากไม่จ่ายก็ต้องรับกรรมไปทางคดีตามกฏหมาย
ล่าสุดนางสาวฐายิกา ผู้เสียหายได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันแจ้งเป็นหลักฐานที่ส.ภ.หนองฉาง ว่าถูกอีกฝ่ายไม่ยอมชดใช้คืนตังให้ตนเอง รวมทั้งหมด 177,500 บาท อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่ออีกฝ่ายเพื่อมาพูดคุยกับผู้เสียหาย เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน แต่หากตกลงกันได้แล้ว แล้วถ้าอีกฝ่ายผิดนัดการชดใช้เงินคืน ผู้เสียหายก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป