นายกรัฐมนตรีปลื้มผลโพลชี้นักธุรกิจต่างชาติเชื่อมั่นศก.ไทย หนุนเปิดประเทศ

นายกรัฐมนตรีปลื้มผลโพลชี้นักธุรกิจต่างชาติเชื่อมั่นศก.ไทย หนุนเปิดประเทศ





ad1

พล.อ.ประยุทธ์ ปลื้มผลสำรวจนักธุรกิจต่างชาติ เชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น สนับสนุนการเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ เชื่อมีนักท่องเที่ยว-นักธุรกิจรอเดินทางเข้าไทยจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ประกาศมาตรการเปิดประเทศแบบปลอดภัยพร้อมรับผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงต่ำ 45 ประเทศและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เริ่ม 1 พ.ย.นี้ ได้การตอบรับจากภาคเอกชนไทยและนักธุรกิจชาวต่างชาติในไทยเป็นอย่างดี

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักธุรกิจต่างชาติในไทย ไตรมาสที่ 3/2564 จากหอการค้าต่างประเทศในไทย 41 ประเทศ สมาชิกรวม 7,810 สถานประกอบการ พบว่านักธุรกิจต่างชาติส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยและความเชื่อมั่นต่อธุรกิจดีขึ้น ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ เพิ่มขึ้นเป็น 44.9 และ 38.4 จากเดิมอยู่ที่ 29.8 และ 26.8 ตามลำดับ ในไตรมาส 2/64 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ เพิ่มเป็น 41.7 จาก 27.7 เป็นค่าดัชนีสูงสุดใน 4 รอบการสำรวจ นับจากไตรมาส 4/2563

นอกจากนี้ร้อยละ 50 ยังเชื่อว่าไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วจากผลกระทบโควิด-19 และเชื่อว่าเศรษฐกิจและธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และเริ่มฟื้นตัวจากไตรมาส 4 ปีนี้ด้วย ทั้งนี้ นักธุรกิจต่างชาติในไทยยังสนับสนุนการเปิดประเทศของไทย เพราะทำให้การเดินทางเข้าไทยและท่องเที่ยวในไทยง่ายและสะดวกเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่ามีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจรอเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งไทยยังเป็นฐานการลงทุนที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างประเทศ

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนก.ย. 2564 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น เช่นเดียวกับการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น การส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ภาคการท่องเที่ยวในเดือนก.ย.2564 มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทยรวม 2,198,337 คน ทั้งในรูปแบบการท่องเที่ยวโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว (Tourist Visa) และกลุ่มนักท่องเที่ยวสมาชิกสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) ด้วย

การเปิดประเทศของไทย 1 พ.ย. ยังช่วยเป็นแรงหนุนให้เศรษฐกิจไนช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ กลับมาคึกคัก ทั้งการบริโภคการผลิต การเดินทางภายในประเทศของคนไทยเองขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้

สิ่งสำคัญคือ ทุกคนต้องร่วมกันสร้างความมั่นใจแก่ชาวต่างชาติที่จะมาท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจในไทย ด้วยมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างรัดกุม ขณะเดียวกันจะระดมฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรเป้าหมายภายในปี 2564 รวมถึงรัฐบาลยังมีมาตรการใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ส่งเสริมการลงทุนภาครัฐและเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายทั้ง New S-curve และ S-curve ล่าสุด รมว.คลัง คาดการณ์ ของไทยในปีนี้จะโตได้ไม่ต่ำกว่า 1% ด้วย