เขื่อนราษีไศลระบายน้ำส่งผลให้น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งท่วมร้านอาหารแพจมบาดาล (มีคลิป)

เขื่อนราษีไศลระบายน้ำส่งผลให้น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งท่วมร้านอาหารแพจมบาดาล (มีคลิป)





ad1

ศรีสะเกษ-เขื่อนราษีไศลระบายน้ำส่งผลให้น้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งท่วมร้านอาหารแพ บ้านแก้ง 12 รายจมบาดาล ปล่อย 200 แพลอยกลางน้ำมูล นาข้าวนับพันไร่จมใต้น้ำ

มวลน้ำที่ปล่อยตามลำน้ำมูลมาจาก เขื่อนราษีไศล มวลน้ำมหีมาเดินทางมาถึง ร้านแพอาหาร ใต้สะพาน  "บ้านแก้ง" ตำบลคูซอด อำเภอเมืองศรีสะเกษ แล้ว ร้านแพอาหารจำนวน 12 ราย ถูกน้ำท่วมจมอยู่ใต้น้ำ บางร้านเห็นแต่หลังคา เจ้าของร้านอาหารมที่ถูกน้ำท่วม บอกว่าน้ำมาเร็วและแรงมาก ต้องขนของหนีน้ำขึ้นมาริมฝั่งอย่างโกลากล ของหนักที่ขนไม่ได้ต้องปล่อยให้จนน้ำไป 

ไม่กล้าลงไปเพราะน้ำมาแรง น้ำครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกยังไม่ลดก็มาอีก ครั้งนี้ท่วมล้นตลิ่ง และถนนบางช่วง ไม่สามารถตั้งร้านขายอาหารได้อีก น้ำยังท่วมบ้านเรือนชาวประมงที่อยูริมฝั่งอีกหลายหลัง แพจำนวน 200 แพ ต้องลอยแพที่ลอยอยู่ในน้ำเจ้าของแพต้องคอยมาเฝ้าดึงมาผูกใกล้ฝั่งป้องกันน้ำพัดพาไป น้ำวันนี้ขึ้นสูงขึ้นวันนี้ 20 ซม นอกจากแม่ค้าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมร้านอาหาร ยังท่วมนาข้าวด้วย ต้องกลับบ้านไปถ่ายภาพที่นาน้ำท่วมเพื่อรายงานขอค่าชดเชยน้ำท่วมนาข้าว

ขณะนี้ยังเหลือร้านค้าเปิดขายเพียง 2 ร้านเท่านั้น.แต่ไม่มีลูกค้า เมื่อลูกค้ามาเห็นน้ำก็กลับไป เจ้าหน้าที่ชลประทาน บอกว่า หากน้ำข้างบนไม่ไหลมาอีก ต้องใช้เวลาอีก 1 สัปดาห์น้ำจึงจะลดลงเป็นปกติ

นายวิทยา อินทิเดช ประธานแพบ้านแก้งกล่าวว่า มวลน้ำในแม่น้ำมูลได้เอ่อขึ้นอย่างรวดเร็ว และสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทีละ 10 เซนติเมตร ผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีทั้งหมด 12 ราย หรือประมาณ 200 แพ สองฝั่งแม่น้ำมูล ต้องปิดร้านหนีน้ำ เหลืออยู่เพียง 2 รายเท่านั้น ที่เปิดขาย เพราะน้ำมูลได้เอ่อขึ้นมาท่วมถนนหนทางเข้าร้านอาหารแพ ลูกค้าไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้ เพราะน้ำท่วมสูงและไหลแรง ส่งผลให้ขาดรายได้และเดือดร้อน ไม่มีลูกค้าเข้ามารับประทานอาหารเหมือนอย่างเคย นอกจากนี้น้ำยังได้เอ่อท่วมนาข้าวของชาวบ้าน สองฝั่งริมแม่น้ำมูลเป็นบริเวณกว้าง นับแล้วหลายร้อยไร่

ด้านนางคีรีวรรณ พลอาจ อายุ 43 ปี แม่ค้า กล่าวว่า แม่น้ำมูลได้เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมร้านขายของ ต้องรีบขนของขึ้นที่สูงหนีน้ำกันอย่างโกลาหล แถมในช่วงนี้ก็ไม่มีลูกค้า เพราะว่าลูกค้าที่เดินทางมาเมื่อเห็นน้ำขึ้นสูงบางคนก็ไม่กล้าเข้าไปนั่งที่แพ เพราะบางครอบครัวมีเด็กๆ มาด้วย ก็เกรงว่าลูกหลานอาจจะได้รับอันตรายได้ ก็พากันเดินทางกลับ ส่งผลให้ไม่มีลูกค้ากระทบต่อรายได้อีกด้วย จากเหตุการณ์มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ก็ทำให้การค้าขายที่หาดบ้านแก้งแห่งนี้ซบเซาอยู่แล้ว

มิหน่ำซ้ำยังมาเกิดพายุถล่มจนน้ำเอ่อล้นแม่น้ำมูลท่วมร้านอาหาร ของที่ซื้อมาไว้ทำให้ลูกค้าก็ต้องแช่ในถังน้ำแข็ง นานวันก็เริ่มจะเน่าเสีย ต้องควักกระเป๋าซื้อใหม่ ทำให้ต้องลงทุนเพิ่มไปอีก จึงอยากวอนหน่อยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือเยี่ยวยาบ้าง