บช.ปส. จับแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ยึดยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด

บช.ปส. จับผู้ค้ายาเสพติด ตรวจยึดของกลางยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด กัญชา 850 กก. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 48,600 ขวด

 พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผบช.ปส. และหน่วยงานที่เดี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด และผู้ลักลอบขนน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 6 คดี ตรวจยึดของกลางยาบ้ากว่า 12,180,000 เม็ด กัญชา 850 กก. นำยาบุรี่ไฟฟ้า 48,600 ขวด ผู้ต้องหา 17 ราย

คดีแรก วันที่24 กันยายน เจ้าหน้าที่ กก.2 และ 3 บก.ปส.3 ร่วมกันจับกุมนายโชติพัฒน อายุ 38 ปี นายเก่งชัย โสใงาม อายุ 39
ปี นายอำพล โพธิประดิษฐ์ อายุ 39 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 8 ล้านเม็ด รถยนต์ 3 คัน หลังสืบทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้านายเก่งชัย โสมงาม จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือลงสูาตอนในของประเทศ กระทั่งพบรถกระบะ 2 คัน ลักษณะขับตามกันมา และเข้าพัใตโรงแรมแห่งหนึ่งในอ.น้ำปาด จ.อุตรดิษถ์ เจ้าหน้าที่จึงทำดารตรวจค้นพบยาบ้า 8 ล้านเม็ด ซุกซ่อนที่ท้ายกระบะ จึงทำการตรวจยึดและติดตามจับกุมผู้น่วมขบวนการได้ทั้งหมด 4 คน

คดีที่สอง เจ้าหน้าที่จับกุมนายอนุพล ยมนา อายุ 35 ปี ชาวอุทัยธานี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่งจำนวน 560 กิโลกรัม การจับกุมครั่งนี้สืบเนื่องมาจากการขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จ.บึงกาฬ โดยใช้รถยนต์กระบะ นิสสัน เนวาร่า สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฮ 4375 กทม. ซึ่งเป็นรถในขบวนการ กระทั่งวันที่ 26 กันยายน เจ้าหน้าที่พบรถคันดังกล่าวขับมาตามเส้นทางถนนบึงกาฬ -หนองคาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสกัดได้บริเวณแยกไฟแดงค่ายบกหวาน ถนนอุดรธานี -หนองคาย จากการจรวจค้นพบกัญชาอัดแท่งจำนวน 560 กิโลกรัมซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะ จึงได้ทำการตรวจยึดและจับกุมนายอนุพล ซึ่งเป็นคนขับ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

คดีที่สาม เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปส.2 จับกุมนายก้องไพร แสงเมือง อายุ 24 ปี พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง 290 กิโลกรัม สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อไปส่งในพื้นที่เป้าหมายกรุงเทพมหานครโดยใช้รถกระบะมิตซูบิชิ ไทรตั้น สีดำ ทะเบียน กข 6516 นครนายก เป็นยานพาหนะ เจ้าหน้าที่จคงวางกำลังสังเกตุการตามจุดต่างๆจนพบว่า รถคันดังกล่าวจอดนิ่งอยู่ภายในปั๊มนานผิดปกติ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบแต่ไม่พบรถคันดังกล่าว จึงออกติดตามเมื่อไปถึงมิตรภาพบริเวณหน้าสถานีควบคุมก๊าสธรรมชาติ ปตท. ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 94-95 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้พบรถคันดังกล่าวจึงทำการสกัดและขอตรวจค้น พบกัญชา จำนวน 290 แท่ง ที่ท้ายรถโดยมีผ้าใยคลุมปกปิดไว้ เจ้าหน้าที่จึงทำดารตรวจยึดและควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.2 ดำเนินคดี

คดีที่สี่ กก.3 บก.ปส.2 ได้ร่วมกับ ภ.จว.นครพนม จับกุมผู้ต้องหาคนไทยและ กัมพูชา รวม 8 คน พร้อมของกลางยาบ้า 4 ล้านเม็ด รถยนต์ 4 คัน สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหารวม 3 คน พร้อมของกลาง 4 ล้านเม็ด ในพื้นที่จ.นครพนม และจากการสืบสวนยังพบผู้ร่วมขบวนการที่ยังไม่ถูกจับกุมซึ่งมีหมายจับในครั้งก่อน จะทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดน จ.บึงกาฬ ส่งลูกค้าตอนใน จึงทำการสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้พร้อมของกลาง

คดีที่ห้า เจ้าหน้าที่ บก.สกส. ได้ทำสรจับกุมผู้ต้องหาชาวจ.นราธิวาส ได้ 2 คน พร้อมของกลางน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 48,600 ขวด รถยนต์กระบะ 2 คัน สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจะมีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงสิ่งผิดกฏหมายเข้ามาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อส่งมอบให้ลูกค้าในจ.เพชรบุรี จึงทำการประสานข้อมูลไปยังด่านตรวจต่างๆตามเส้นทาง ที่คาดจะใช้ในการลำเลียง กระทั่งพบรถกระบะต้องสงสัยเข้ามาที่ด่านตรวจความมัานคงทุ่งสวรรค์ ม.1 ต.สวนแดง อ.ละแม จ.ชุมพร จากการตรวจค้นพบน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 43 ลัง จึงทำการตรวจยึดและขยายผลไปตรวจยึดเพิ่มได้อีก 43 ลัง รวม 86 ลัง จำนวนประมาณ 48,600 ขวด มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้นับการว่าจ้างให้ขนน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามาจากอ.หาดใหญ่เพื่อส่งให้ลูกค้าใน จ.เพชบุรี โดยได้ค่าจ้างขนคนละ 10,000 บาท

คดีสุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.4 จับกุมนายสุไหลหมาน หมันหมาด อายุ 42 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 180,000 เม็ด ก่อนหน้าการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากวาบลับว่านายสุไหลหมาน ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่บ้านหนองธง ม.6 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง จึงทำการสืบสวนจนสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป