อลังการ นิทรรศการภาพเขียนพู่กันจีนและวัฒนธรรมร่วมสมัย
อลังการ นิทรรศการภาพเขียนพู่กันจีนและวัฒนธรรมร่วมสมัย


เนื่องในโอกาสครบรอบ 26 ปี มูลนิธิธรรมกิจไพศาล ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 ทางมูลนิธิธรรมกิจไพศาล ได้ร่วมกับ วิทยาลัยเทคโนโลยีไทย-ไต้หวัน ร่วมกันจัดงานนิทรรศการภาพเขียนสีน้ำพู่กันจีนและวัฒนธรรมร่วมสมัย ณ ลานชั้นหนึ่ง โรงแรมริเวอร์ซิตี้ ตั้งอยู่เลขที่ 23 ซอย เจริญกรุง 24 แขวง ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100 ในวันที่ 26 พฤศจิกายน งานเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น.-21.00 น.
ในงานนิทรรศการนี้ได้รังสรรค์ชิ้นงานศิลปะจำนวนมากให้ผู้คนได้ชื่นชม อีกทั้งยังสืบสานประเพณีต่างๆที่น่าสนใจเช่น วิถีการชงชาของชาวจีน การแสดงโชว์ของเด็กๆจากโครงการเยาวชนคุณธรรม ซึ่งทางมูลนิธิฯนี้ ได้ส่งเสริมให้เด็กๆได้เรียนรู้ความกตัญญู ปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เด็กๆตั้งแต่วัยเยาว์ โดยเข้าร่วมกับทางโรงเรียนต่างๆทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
นอกจากนี้ภายในงานยังมีจัดแสดงโชว์อีกมากมาย อาทิ การเดินแฟชั่นโชว์ มินิคอนเสิร์ตร่วมสมัย การแสดงดนตรีกู่เจิง การแสดงการวาดภาพโดยปรมาจารย์ที่ท่านได้เดินทางมาจากไต้หวันเพื่องานนี้โดยเฉพาะ รวมถึงการโชว์การเขียนอักษรจีนจากอาจารย์ที่มากฝีมือและประสบการณ์ ในงานมีการจำหน่ายพัดที่เหล่าศิลปินช่วยกันวาดภาพสวยงามให้โดดเด่นอยู่ในพัด ไม่ว่าจะเป็นงานภาพเขียนหรือพัด แต่ละภาพจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ท่านยังสามารถชื่นชมภาพเขียนพู่กันจีนซึ่งมีความยาวถึงกว่า 5 เมตร จำนวน 2 ภาพในงานนี้ด้วย ช่างเป็นนิทรรศการที่หรูหราและยิ่งใหญ่สำหรับการฉลองครบรอบ 26 ปีของมูลนิธิฯแห่งนี้
นอกจากนี้ในงานท่านยังสามารถสัมผัสรถตุ๊กๆไฟฟ้า ที่ผลิตออกมาเพื่อสังคมปลอดมลพิษ อีกทั้งยังมีสีสันที่สวยงามน่าใช้มาก โดยเฉพาะเพื่อนำมาจำหน่ายสินค้าต่างๆ โดยวางในตัวรถ สามารถตกแต่งได้อย่างสดุดตาและเกิดการสร้างมูลค่าให้กับสินค้าที่วางได้อย่างชัดเจนทีเดียว
สำหรับงานนิทรรศการนี้ ทาง ดร.บรินดา จางขจรศักดิ์ ซึ่งเป็น ประธานมูลนิธิธรรมกิจไพศาล ท่านได้กล่าวว่า ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่เต็มไปขนบธรรมเนียมและประเพณีพื้นบ้าน อีกทั้งมีชาวไต้หวันมากมายที่เข้ามาประเทศนี้ด้วยจิตใจที่เสียสละและปราถนาอุทิศตนเองเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมของประเทศนี้ ด้วยเหตุนี้ จึงได้ก่อตั้งมูลนิธิธรรมกิจไพศาลขึ้นในกรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อปีพ.ศ. 2539 ซึ่งวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งมูลนิธิฯ มีดังนี้คือ
1.กำหนดพันธกิจหลัก 4 ประการ (วัฒนธรรม, การศึกษา, การกุศล, และการเผยแผ่หลักธรรม)
2.ส่งเสริมจิตใจผู้คนให้บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว มีความกตัญญูกตเวที ส่งเสริมความสามัคคีและความสุขในครอบครัว
3.ช่วยเหลือบรรเทาภัยฉุกเฉินต่างๆ อาทิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติและการบรรเทาความยากจนในชนบท
4.ปลูกฝังลักษณะนิสัยของเยาวชนและสร้างสังคมที่มีคุณภาพ
5.มอบทุนการศึกษา และช่วยเหลือนักเรียนที่ยากจนให้ได้รับการศึกษาที่ดี
ดร.บรินดา ประธานมูลนิธิฯ ยังได้กล่าวอีกว่า ทางมูลนิธิยึดมั่นในแนวคิด สร้างตนเองเพื่อสร้างผู้อื่น พัฒนาตนเองเพื่อพัฒนาผู้อื่น รับจากสังคมคืนกลับให้สังคม ก่อนการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2019 ทางมูลนิธิฯ ได้มีการจัดกิจกรรมระดมทุนเพื่อช่วยเหลือการกุศลทุกปี เพื่อเป็นแบบอย่างในการปลูกฝังเมตตาจิตให้เกิดแก่สังคมไทย และในปี 2022 โรคระบาดโควิดได้เริ่มคลี่คลายลง ทางรัฐบาลไทยก็ได้ยกเลิกกฎหมายและข้อบังคับทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของ โควิด-19 เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา สังคมได้กลับคืนสู่สภาวะปกติ ขณะเดียวกันทางมูลนิธิฯ เอง ก็เข้าใจถึงการดำรงชีวิตที่ยากลำบากในช่วงสถานการณ์ที่เกิดภัยร้ายโรคระบาดนี้ คนรากหญ้าบางส่วนในประเทศนี้ จำเป็นที่ต้องได้รับความช่วยเหลือทั้งความเป็นอยู่และการศึกษาของบุตรหลาน ทางมูลนิธิฯ จึงได้จัดงานการกุศล “ส่งเสริมงานศิลปและวัฒนธรรม สร้างคุณธรรมความดีเพื่อใต้หล้า” เพื่อเป็นการระดมทุน โดยงานนี้จัดขึ้นที่ศูนย์ศิลปในพื้นที่ของโรงแรมริเวอร์ซิตี้ ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 เวลาตั้งแต่ 13.00-21.00 น.
ทางมูลนิธิธรรมกิจไพศาล รู้สึกขอบคุณประเทศไทยที่เปิดโอกาสและภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังเมตตาธรรมและจิตกุศลให้กับสังคมไทย โดยเฉพาะเด็กๆเยาวชนที่กำลังเติบโตและเป็นผู้ใหญ่ที่จะเป็นกำลังสำคัญให้กับสังคมในประเทศไทยต่อไป