ยิ่งแล้ง ยิ่งขาดแคลนอาหาร!โขลงช้างป่าเขาอ่างฤาไนยกโขลงลุยยึดสวนมะละกอ –กล้วย –ป่าอ้อย

ยิ่งแล้ง ยิ่งขาดแคลนอาหาร!โขลงช้างป่าเขาอ่างฤาไนยกโขลงลุยยึดสวนมะละกอ –กล้วย –ป่าอ้อย





ad1

ปราจีนบุรี–ร้องทุกข์ชาวบ้าน!  ยิ่งแล้ง  โขลง ช้างป่าเขาอ่างฤาไน  ยิ่งยกโขลงลุยแหล่งอาหาร ล่าสุดลุยสวนมะละกอ –กล้วย –ป่าอ้อย  เกษตรเสียหายยับอีกแล้วรายวัน

เมื่อเวลา 10.25 น. วันนี้ 7ม.ค.66ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี  รายงานว่า    ได้รับการร้องทุกข์ชาวบ้าน  จากชาวบ้าน  หมู่บ้านโปร่งศรีษะเกษ หมู่ที่ 9 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี  มีช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายในป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง)   ยกโขลงโยกย้ายถิ่นข้ามจังหวัดบุกมาหากิน  สวนผสมผสานปลูก มะละกอ ,ป่าอ้อย และสวนกล้วยของเกษตรกรเสียหายครึ่งสวน    ให้ช่วยเป็นสื่อกลางถึงหน่วยงาน-องค์กรที่ดูแลได้รับรู้-แก้ไขด้วยจึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบสวนผสมผสาน  ป่ามะละกอและป่าอ้อยของนายช่อศักดิ์ ศรีจันทร์ ชาวบ้านหมู่ที่ 9  พบสภาพสวน เสียหายเป็นบริเวณกว้าง

นายช่อศักดิ์  กล่าวว่า   สวนตนเองได้รับผลกระทบจากโขลงช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน   พากันยกโขลงมาหากินในนาข้าวก่อนหน้าเมื่อปลายปี 65ที่ผ่านมาเร็ว ๆนี้ ไม่ทันไร    มาต้น ปี 66  นี้  โขลงช้างป่า  ยังติดใจรสชาติพืชผลการเกษตร  พากันยกโขลงมากกว่า10ตัว    ช่วงตนเองไปงานศพเพื่อนบ้าน   ช้างพากันยกโขลงเข้ามากัดกินพืชผลในสวน  มีมะละกอพันธุ์แขกดำที่ปลูกไว้ข้างบ้าน3ไร่  ถูก ช้างกัดกินและเหยียบย่ำมะละกอเสียหาย ผลที่เหลือ  ตกลงมากองกับพื้นเต็มสวน มากกว่า 600กก.    เก็บมะละกอไปขายได้กิโลกรัมละ 3 บาทได้1,600 บาท

ซึ่งหากมะละกอ ที่โขลงช้างป่าเข้ามาหากิน –ทำล่วงหล่นจำนวนดังกล่าวแก่จัด    จะขายได้ประมาณ 8,000 บาท    ไม่รู้ว่าที่เหลือช้างป่าจะเข้ามากัดกินอีกเมื่อไหร่ไม่รู้?     ฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยลงมาแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่มาผลักดันช้างป่าให้พ้นออกจากหมู่บ้านนี้   แล้วปล่อยให้ช้างป่าเข้าไปหากินต่อหมู่บ้านอื่นข้างเคียง    หมู่บ้านนี้ไล่มา   หมู่บ้านนี้ไล่ไป   โขลงช้างก็วนเวียนๆหากินอยู่แบบนี้   !!   

ขณะนี้ชาวบ้านแต่ละหมู่ที่ได้รับผลกระทบเริ่มขัดใจ –  ขัดแย้งกันเองแล้ว   เพราะไล่ช้างจากหมู่บ้านนี้   ไปหมู่บ้านนั้น  แต่ละหมู่บ้านก็ต่างล้วนไม่ต้องการ  ที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สิน  บ้านเรือน

ขณะที่   นายประนอม ด้วงเมฆ เจ้าของสวนกล้วยกล่าวว่า     ปลูกกล้วย10ไร่    ถูกโขลงช้างป่าไม่ทราบจำนวน    เข้ามากินสวนกล้วยที่กำลังจะแก่รอตัดขายช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้    เสียหายประมาณ 2 ตัน     กล้วยที่เสียหายไปจะขายได้ตันละ15,000 บาท     ช้างป่าเข้ามากัดกินเสียหายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท  ให้รัฐบาลช่วยดูแลด้วยไม่เช่นนั้นชาวสวนเป็นหนี้สินตาย

ขณะเดียวกันนายณัฐพงษ์ ปรีชากูล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 นายชัช วงษ์ศรี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว  (ส.อบต.)  เข้ามาให้คำแนะนำไปติดต่อเกษตรอำเภอเพื่อลงทะเบียนเกษตร หากเกษตรกรทะเบียนเกษตรจะได้รับการช่วยเหลือทำจำนวนค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานต่อไปว่า   ได้รับแจ้งและคลิปโขลงช้างป่าจาก นายธนเกียรติ    ไชยราษฎร์  อาสาสมัครเฝ้าระวังผลักดันช้างป่า ของเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากภัยช้างป่า ภาคประชาชน จังหวัดปราจีนบุรี    กล่าวว่า   พบมีโขลงช้างป่าข้ามฝั่งมาจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน แปดริ้ว หรือ จ.ปราจีนบุรี  รวมจำนวนมากกว่า   30+  ได้เข้ามาพักที่บริเวณป่าเขามะก่องได้2วันแล้วจึงได้ทำการผลักดันออกจากพื้นที่ กลางดึกเมื่อคืนนี้

โดยโขลงช้างนี้  คาดว่า น่าจะมาจาก  ต.เขาไม้แก้ว   อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี     โดยบริเวณดังกล่าว   เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง หมู่ที่14 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี กับ หมู่ 14 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา  

หลังโขลงช้างข้ามฝั่งมา   ยังไม่มีความเสียหายต่อทรัพย์สิน – บ้านเรือนเกษตรกรในพื้นที่    เพราะเดินในป่ายูคาเชิงเขามะก่องรอยต่อบ้านห้วยกระโดด ม.14 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต ฉะเชิงเทรา  เนื้อที่ป่ายูคาประมาณ 500 ไร่ของสวนป่าบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง

การแก้ไขป้องกันเป็นไปได้ยากเพราะหน่วยงานของรัฐไม่หาทางแก้ไขโขลงช้างป่าที่พากันโยกย้ายข้ามฝั่งจากแปดริ้ว ที่เข้ามาหากินในพื้นที่ใหม่ฝั่งปราจีนบุรีนี้       จึงอยากให้ทางท่านผู้ว่าปราจีนบุรี หรือนายอำเภอกบินทร์บุรี    ให้ลงมาให้กำลังใจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยจากช้างป่าในพื้นที่ทั้งในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง ต.เขาไม้แก้ว  อ.กบินทร์บุรีด้วย   เพราะปัญหาโขลงช้างป่าโยกย้ายแหล่งหากินจากถิ่นเดิมแปดริ้ว มาแล้วไม่ยอมกลับ  โดยเฉพาะยิ่งแล้งโขลง ช้างป่าเขาอ่างฤาไน  ยิ่งยกโขลงมาหากินแหล่งอาหารยาวนานเป็นที่หากินแห่งใหม่แล้ว     นายธนเกียรติ    กล่าว

มานิตย์    สนับบุญ / ปราจีนบุรี  รายงาน