"สนธิรัตน์"โวลั่น"ปชป.-ภท.-รทสช."เป็นรัฐบาลยาก มีแต่ พปชร.ที่ทำได้เพราะบารมี "บิ๊กป้อม"

"สนธิรัตน์"โวลั่น"ปชป.-ภท.-รทสช."เป็นรัฐบาลยาก มีแต่ พปชร.ที่ทำได้เพราะบารมี "บิ๊กป้อม"





ad1

"สนธิรัตน์" ปราศรัยเดือด ชี้ "ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ" เป็นรัฐบาลยาก มีแค่พลังประชารัฐที่ทำได้ เพราะ "พล.อ.ประวิตร" มีบารมีทางการเมืองมาก

เมื่อวันที่ 29 เม.ย.66 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศรัยที่สนามหน้าเมือง อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในจังหวัดที่จะชี้ชะตาการเลือกตั้ง ตนเองได้กลิ่นไอปัญหาการเมืองข้างหน้า พรรคหนึ่งบอกจะแลนด์สไลด์ พรรคหนึ่งบอกจะล้มรัฐบาลเดิมที่มี บอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องเปลี่ยนแปลงประเทศ คนภาคใต้เหนื่อยยากมามากกับการเมือง วันนี้ตนเองบอกกับการเมืองว่าบ้านเมืองหลังเลือกตั้งจะเป็นเวลาที่ยุ่งยากใจที่สุด จะกลับไปอยู่กับการต่อสู้ วันนี้มีพรรคการเมืองเดียวที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการตัดสินใจชองชาวภาคใต้ เป็นตัวแปรให้ผ่านพ้นการต่อสู้และความขัดแย้ง เหลืออยู่พรรคเดียวคือพรรคพลังประชารัฐ เพราะหลังเลือกตั้งจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เสียงจะก้ำกึ่งกันมาก

โดยใน 4 พรรคที่ท่านจะตัดสินใจ เดิมพวกท่านรักพรรคเก่าแก่อยู่พรรคหนึ่ง มักจะกาคะแนนให้เขา แต่พรรคนั้น วันนี้โอกาสตั้งรัฐบาลน้อยมาก พรรคที่สอง เป็นพรรคที่ขณะนี้พยายามกวาดพื้นที่ภาคใต้ให้ได้เสียงมากที่สุดคือพรรคภูมิใจไทย แต่วันนี้ภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลยากมาก พรรคที่สามเป็นพรรคที่แยกออกไปจากพลังประชารัฐ คือพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคนี้ยากที่สุดที่จะเป็นรัฐบาล มีอยู่พรรคเดียวที่เป็นพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นพรรคที่จะสามารถเป็นตัวแปรรวมทุกฝ่ายคือพรรคพลังประชารัฐ

ตนเองต้องการมาบอกชาวนครศรีธรรมราชว่า พี่น้องกำลังชี้ชะตาอนาคตประเทศไทย หากตัดสินใจผิด เลือกพรรคผิด เลือกผู้แทนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ของรัฐบาล จะไม่มีใครดูแลประชาชน ต้องเลือก ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ 10 เขต โดยพรรคพลังประชารัฐจะเป็นตัวแปรหรือไม่ ขอให้ดูว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ พลเอกประวิตร เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นนายกฯ เพราะเป็นคนเดียวที่มีบารมีการเมืองมากที่สุด เชื่อมโยงคนทุกฝ่ายได้ เป็นคนเดียวที่มีประสบการณ์การเมืองยาวนานที่สุด