เจ้าภาพงานบวชลั่นดำเนินคดีเด็ดขาดอส.กร่างถือปืน-ทำร้ายร่างกายชาวบ้าน-เรียกค่าเสียหาย 2.6 หมื่น

เจ้าภาพงานบวชลั่นดำเนินคดีเด็ดขาดอส.กร่างถือปืน-ทำร้ายร่างกายชาวบ้าน-เรียกค่าเสียหาย 2.6 หมื่น





ad1

จากกรณีที่ เพจ ชื่อ "ชุมชนข่าวขอนแก่น" ได้โพสต์คลิปภาพเหตุการณ์ ชุลมุนหน้ารถแห่ในงานบวชนาคที่วัด ในอำเภอโคกโพธิ์ไชย จังหวัดขอนแก่น โดยมีชายเสื้อขาวในมือถือบางอย่างลักษณะคล้ายอาวุธปืนสั้นสีดำเดินอยู่กลางถนนและมีชาวบ้านเข้ามาห้าม พร้อมข้อความระบุว่า "อส.ที่อำเภอโคกโพธิ์ไชยกร่างในงานแห่นาค ถือปืนทำร้ายคนได้รับบาดเจ็บ" ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา  15.00 น.วันที่ 4 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นทีได้พบกับ น.ส.เสาวลักษณ์ สุขสมบัติ อายุ 37 ปี เจ้าภาพงานบวชและจ้างรถแห่เครื่องเสียงมาใช้ในงานดังกล่าว ซึ่งได้ นำหลักฐานการขออนุญาตจัดงานและใช้เครื่องเสียง รวมทั้งขออนุญาตใช้รถแห่เครื่องเสียง และใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียม เทศบาลตำบลนาแพง อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 1-3 พ.ค.มาแสดงให้กับผู้สื่อข่าวได้ดู เพื่อยืนยันว่าจัดงานอย่างถูกต้อง

น.ส.เสาวลักษณ์ กล่าวว่า ในวันที่ 2 พ.ค.เป็นวันแห่นาคเข้าโบสถ์ หลังจากเสร็จพิธีในช่วง 17.00 น. ก็มีการใช้รถแห่มอบความสนุกสนานให้กับชาวบ้านเพราะชาวบ้านทุกคนที่นี่ชอบเต้นชอบเสียงเพลง ชอบร่วมงานรื่นเริง และไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน จึงไม่ได้จัดเตรียมการป้องกันเหตุอะไรมาก ไม่ได้จ้าง อปพร.มาช่วยดูแลงาน เพราะมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการทะเลาะกันเกิดขึ้น จนกระทั่งเพื่อนนาค ที่เป็นกลุ่ม อส.ในคลิปมาสร้างความวุ่นวายในงาน มาทำร้ายชาวบ้านในพื้นที่

"ชาวบ้านทุกคนไม่พอใจอย่างมาก เพราะมีหน้าที่การงานเป็นถึง อส.ควรจะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ เป็นคนดูแลประชาชนแต่กลับมาก่อเหตุเอง ในเรื่องนี้ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพจัดงานจ้างรถแห่มาเสียเงินจ้าง 26,000 บาท ก็จะเรียกชดใช้เงินค่าเสียหายที่มาทำให้งานล่มโดยได้ประกาศบนเวทีก่อนที่จะเริ่มงานเอาไว้แล้วว่า หากใครทำให้งานล่มต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแทนเจ้าภาพทั้งหมด และยืนยันว่าจะเรียกค่าเสียหายจำนวน 26,000 บาทโดยไม่ขอไกล่เกลี่ย และอยากจะฝากถึงต้นสังกัดของ อส.กลุ่มนี้ให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด ควรให้ออกไปทั้งหมด เพราะการกระทำดังกล่าวไม่สมควรที่ทำหน้าที่นี้ต่อไป"

น.ส. เสาวลักษณ์ กล่าวต่ออีกว่า   อส.กลุ่มนี้หลังจากที่มาร่วมงานสังสรรค์ดื่มกินจนเมาแล้ว ก็เริ่มกร่างไปทั่ว มีการชักปืนออกมาสร้างความตกใจและหวาดกลัวให้กับชาวบ้านที่นี่เป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาในหมู่บ้านไม่เคยมีเรื่องราวอะไรแบบนี้เกิดขึ้น ทุกคนอยู่กันด้วยความสามัคคี ชอบงานรื่นเริง ชอบมหรสพรื่นเริงต่างๆ จะไม่เคยทะเลาะกันใหญ่โตขนาดนี้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากคนนอกพื้นที่

"ในวันเกิดเหตุ ตนเองอุ้มหลานอยู่ กลุ่ม อส.กลุ่มนี้เดินไปตีเด็กที่ยืนเต้นอยู่ ชาวบ้านที่เห็นก็ตะโกนถามว่าไปตีเด็กมันทำไม ก่อนที่จะมีการตะโกนไปมาและเกิดการชุลมุนขึ้น โดยตนเองเห็นน้องที่บาดเจ็บโดนรุมเป็นสิบๆคน พร้อมทั้งเดินถือปืนไปมา ทำให้ไม่มีชาวบ้านกล้าเข้าไปใกล้ ก็ทำได้เพียงห้ามและพยายามแยกออกจากกัน เพื่อให้เหตุการณ์สงบโดยเร็ว กระทั่งเหตุการณ์ผ่านไป ชาวบ้านทุกคนเกิดความไม่พอใจ กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม กลุ่มคนที่ทำร้ายที่เป็นอส. ตนเองก็ไม่ได้กล่าวหาเหมารวม คนที่เข้ามาห้ามก็มี แต่จะมีคนที่ทำร้ายน้องที่บาดเจ็บอยู่ประมาณ6-7คน ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด และให้มาชดใช้ค่าจัดงานเต็มจำนวนรวมทั้งให้มารับผิดชอบคนเจ็บด้วย เพราะชาวบ้านที่นี่ทุกคนไม่พอใจเป็นอย่างมาก ต้องการได้รับความเป็นธรรม"

ขณะที่ พ.ต.อ.นำชัย ศรีเวียง ผกก.สภ.โคกโพธิ์ไชย กล่าวว่า ในทางคดีนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เบื้องต้นตามขั้นตอนก็จะต้องสอบปากคำทั้งสองฝ่ายให้ครบ หากพบการกระทำความผิดเกิดขึ้นก็จะแจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอน โดยขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับใคร เพราพอยู่ระหว่างการสอบสวนของทางตำรวจ