สลด!หนุ่มขอนแก่น ป่วยโรคซึมเศร้า คิดสั้น ใช้ปืนฆ่าตัวตาย

สลด!หนุ่มขอนแก่น ป่วยโรคซึมเศร้า คิดสั้น ใช้ปืนฆ่าตัวตาย





ad1

เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 22 พ.ค. 2566 ร.ต.อ. สุรพงษ์ เพิงผา รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านแฮด ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีคนถูกยิงตายในพื้นที่บ้านขามเปี้ย ม.9 ต.บ้านแฮด อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมแพทย์เวร รพ.สิรินธร เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน4 ขอนแก่น  ร่วมตรวจสอยและชันสูตรศพในที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบว่าจุดเกิดเหตุ อยู่ในห้องเก็บเครื่องมือทางการเกษตรภายในสวนของนายแก้ว อำคา อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.9 บ้านขามเปี้ย ต.บ้านแฮด อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น  โดยพบร่างคนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องเก็บของ ทราบต่อมาคือ นายปิยะพงษ์ สอนเสนา อายุ 42 ปี ลูกเขยของนายแก้ว สภาพศพนอนหงาย นุ่งกางเกงขาสั้น สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีแดง จากการตรวจสอบพบรูกระสุนที่ขมับขวาทะลุซ้าย และมีอาวุธปืนขาด 11 มม.ตกอยู่ข้างศพคนตาย จำนวน 1 กระบอก  และปลอกกระสุน จำนวน 1 ปลอก ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 จากการสอบปากคำนายแก้ว  ให้การว่า ก่อนหน้านี้ลูกเขยและ ลูกสาว ค้าขายที่กรุงเทพฯ  แต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาลูกสาวและลูกเขยกลับมาอยู่ที่บ้าน  เพราะลูกเขยป่วยซึมเศร้า ลูกสาวจึงค้าขายต่อไปไม่ได้   โดยญาติพี่น้องได้พาลูกเขยไปพบจิตแพทย์และ รับยารักษาโรคซึมเศร้ามารับประทาน  ส่วนภรรยาก็เข้าไปทำงานในเมืองขอนแก่น

“หลังรับประทานอาหารกลางวันก็เห็นลูกเขยนอนพักผ่อนในบ้าน  จนกระทั่งช่วงเย็น เดินมาดูก็ไม่เห็น จึงออกตามหา แต่ตามที่ไหนก็ไม่เจอ ในสวนก็มาเดินดู แต่ไม่ได้เปิดดูในห้องเก็บของ  จึงไปบอกพ่อแม่ของลูกเขยที่อยู่อีกหมู่บ้านให้ทราบเรื่อง และช่วยกันออกตามหา จนกระทั่งสังหรใจเปิดห้องเก็บเครื่องมือการเกษตรในสวนดู พบว่าลูกเขยเสียชีวิตแล้ว โดยที่ไม่รู้ว่า ลูกเขยยิงตัวตายตั้งแต่เมื่อใด และช่วงเย็นมีการเผาศพที่วัดมีการยิงพลุตะไล ก่อนเผาศพ จึงทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงปืน”

ขณะที่ ร.ต.อ. สุรพงษ์   กล่าวว่า จากการสอบสวน พ่อแม่คนตาย และพ่อตาแม่ยาย รวมถึงภรรยาคนตาย ต่างไม่ติดใจสาเหตุการตาย เพราะทุกคนเข้าใจในอาการป่วยของผู้ตายที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มูลเหตุของการคิดสั้นฆ่าตัวตาย  ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ฆ่าตัวตายนั้น น่าเชื่อว่า เป็นของผู้ตายเอง เพราะเท่าที่ทราบจากญาติพี่น้อง ทราบว่าคนตายค้าขาย จึงซื้ออาวุธปืนมาไว้ป้องกันตัวและมีใบอนุญาตถูกต้อง อย่างไรก็ตามภายหลังชันสูตรแล้วเสร็จ จึงให้มูลนิธิ นำศพส่งชันสูตรที่รพ.อีกครั้ง ก่อนจะให้ญาติมารับศพเพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป