“ทวี”มั่นใจ 8 พรรคเดินหน้า “ตั้งรัฐบาล”คืนสิทธิ-ศักดิ์ศรีคนไทย

“ทวี”มั่นใจ 8 พรรคเดินหน้า “ตั้งรัฐบาล”คืนสิทธิ-ศักดิ์ศรีคนไทย





ad1

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ร่วมพูดคุยและตอบคำถามในรายการออนไลน์ ช่องข่าวสดทีวี ในประเด็น “เจาะ MOU 8 พรรค เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล”  โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เข้าร่วมสนทนา

@@ การเซ็น MOU แต่ละพรรคพึงพอใจเนื้อหา MOU มากน้อยแค่ไหน มีประเด็นไหนที่คิดว่าเป็นจุดเด่นที่ต้องรีบผลักดันเป็นวาระแรกเมื่อมีการตั้งรัฐบาล? 

ผมคิดว่าในพรรคประชาชาติมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นการทำงานการเมืองที่เรามาคิดร่วมกันว่า เราจะเอานโยบายสาธารณะไปบอกกับประชาชน ซึ่งใน 23 ข้อเราเห็นร่วมกัน แต่ในแต่ละพรรคการเมืองก็อาจจะมีเพิ่มเติม  

อันนี้อยากจะเรียนว่า เรื่องนโยบายสาธารณะ ปกติเราจะเขียนว่าเรามาเป็นรัฐบาล เราต้องทำอะไร แต่ในที่นี้มันมากกว่ารัฐบาลต้องทำอะไร ก็คือรัฐบาลควรไม่ทำอะไร และรัฐบาลต้องไม่ทำอะไร อย่างน้อยที่สุดใน 23 ข้อ มันก็เป็นการครอบคลุมก็คือว่า สิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำมันอาจจะสื่อไปในเนื้อหา MOU คือรัฐบาลจะต้องไม่ใช้กฎหมายอยู่เหนือหลักความยุติธรรม ต้องไม่ใช้อำนาจอยู่เหนือหลักความยุติธรรม 

ถ้ารวมๆ ที่พรรคประชาชาติหาเสียงก็คือเราต้องสร้างสังคมให้เป็นประชาธิปไตย คืนสิทธิ คืนอำนาจ คืนศักดิ์ศรี และความยุติธรรมให้กับประชาชน เริ่มแรกเราคงจะต้องทำประชามติให้เจ้าของอำนาจไปจัดทำรัฐธรรมนูญ 

สิ่งต่อมาประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำมาก การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ตั้งแต่ครรภ์มารดาถึงหลุมฝังศพหรือเชิงตะกอน หรือกุโบร์ คงจะนำระบบรัฐสวัสดิการมาใช้ รัฐสวัสดิการไม่ได้ทำให้คนรวย แต่ทำให้คนเสมอกัน ดังนั้นคงจะต้องไปดูรายละเอียด และที่สำคัญอย่างยิ่ง สิ่งที่เป็นความเหลื่อมล้ำมากที่สุดใน 23 ข้อ คงจะต้องมาคุยในเชิงนโยบายร่วมกัน แต่ถ้ามีหลักใหญ่ทุกข้อ ไม่ว่าเรื่องการปฏิรูประบบราชการก็มีความสำคัญ 

ที่สำคัญอีกอันหนึ่งก็คือว่า รัฐบาลจะต้องไปบริหารราชการแผ่นดิน การบริหารราชการแผ่นดินหลักใหญ่ก็คือต้องไม่ให้ประโยชน์ส่วนตัวอยู่เหนือประโยชน์ส่วนร่วม เพราะในยุคที่ผ่านมาระบบคุณธรรมถูกทำลายจนหมดเลย และราชการก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ อาจจะต้องถึงเวลาที่จะต้องกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชั่น การกวาดล้างไม่ใช่หมายถึงไปแก้แค้นใคร เพราะวันนี้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ถ้าไปอยู่ในพื้นที่ ทุกระดับเลยขยายไปถึง กระทรวงการคลังต้องจ่ายเงินหมด นี่คือปัญหาใหญ่ 

และที่สำคัญอีกอันหนึ่งผมคิดว่า เขาบอกว่าการจะเปลี่ยนการแก้ปัญหาความยากไร้ ความยากจน หรือปัญหาความเหลื่อมล้ำ สหประชาชาติก็ได้ทำวิจัยแล้วว่า การแก้ได้ดีที่สุด คือแก้ด้วยการศึกษา เราก็ยังมีนโยบายเรื่องการศึกษา เพราะว่าการแก้เรื่องการศึกษาสามารถแก้ได้ถึง 47 เปอร์เซ็นต์ ถ้าแก้ที่สาธารณสุขแค่ 35 เปอร์เซ็นต์ แต่แก้แบบที่รัฐบาลทำมา คือแก้ที่การพัฒนาวัตถุ ไม่ไปแก้ที่มนุษย์ สร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน ได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ การวัดประเทศจะเจริญไม่เจริญ วัดที่คุณภาพของคน

สรุปก็คือ MOU ทั้งหมด มันก็สอดคล้องแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นโอกาสและเป็นสิ่งท้าทาย ภาคใต้เป็นจังหวัดชายแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด เราน่าจะถึงเวลาแล้วที่จะสันติภาพและจะสร้างความเจริญให้กับประเทศไทย ไม่ให้เป็นภาระของคนไทย อันนี้มองโดยรวมๆ

แต่ในนโยบายของแต่ละพรรค อย่างพรรคประชาชาติอ าจจะมีวาระหนี้สินประชาชนมาเป็นอีกวาระหนึ่ง เพราะวาระเรื่องที่ดินเรามีแล้ว ต่อไปนี้คนที่คาอยู่ในที่ดินประมาณ 35 ล้านไร่ หรือ 17 ล้านคน ส่งมอบคนทำผิดกฎหมายต่อเนื่องกันมา จะต้องถูกแก้ไข คือจากการประกาศป่ารุกคน อาจจะต้องกันแนวเขตไปออกโฉนด ออกเอกสารสิทธิ์ให้ประชาชน อันนี้คือความไม่เป็นธรรมในอันดับใหญ่ๆ

@@ พรรคประชาชาติที่สงวนความเห็นเรื่องสมรสเท่าเทียม แล้วก็สุราก้าวหน้า ตรงนี้จะผ่อนคลายบรรยากาศให้ผู้สนับสนุนมีความเข้าใจพรรคมากขึ้นไหม? 

สังคมไทยเป็นสังคมที่เขาเรียกว่าอยู่กันบนความหลากหลาย เป็นความแตกต่าง แล้วความหลากหลาย ความแตกต่างเป็นการให้เกียรติกัน หรือความแตกต่างหลากหลายเป็นปรากฏการณ์ของสังคมพหุวัฒนธรรม ดังนั้นทุกอย่างเราไม่สามารถที่จะใช้ในเรื่องเดียวกันในทุกพื้นที่ เพราะความเชื่อทางศาสนา ความเชื่อทางวัฒนธรรม ความเชื่อแตกต่างกัน ก็เป็นสิ่งที่ดี

อย่างกรณีที่จะมีการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม เป็นสิทธิของคู่รักที่เขาจะจดทะเบียนกัน แต่ก็มีข้อเขียนไว้ชัดเจนเลยว่า เราจะบังคับประชาชนที่มีความเห็นขัดแย้งกับหลักการศาสนาที่เขานับถือไม่ได้ อันนี้ก็ชัดเจน กรณีของสุราก็เหมือนกัน ก็เป็นสิทธิที่เราไม่ควรจะผูกขาด แต่พอเขามายกตัวอย่างสุรา ทราบไหม ที่ยะลาเคยมีโรงงานสุราอยู่ แต่ก็อยู่ไม่ได้ เพราะว่ามันไปขัดกับบริบท เราก็เขียนสงวนสิทธิ์ไว้  

อีกประการหนึ่งคือไม่อยากให้มอง MOU มันมีแค่ 23 ข้อ ข้อที่สำคัญที่สุดในความเห็นผม คือข้อที่ 5 พรรคจะต้องมาบริหารประเทศด้วยกัน ก็คือว่าทุกพรรคจะต้องคุ้มครองสิทธิพลเมือง สิทธิการเมืองของประชาชนทุกคน นี่ยิ่งใหญ่มาก สิทธิมนุษยชนจะใหญ่กว่ากฎหมาย สิทธิพลเมือง สิทธิการเมืองการชุมนุมก็ต้องสามารถทำได้ แล้วเราต้องปฏิรูปทั้งกระบวนการยุติธรรม 

ผมยกตัวอย่างที่เราเข้าใจ อย่างวันนี้เราอาจจะเกิดความไม่เป็นธรรมจากกฎหมายหรือนายกฯ คือผู้ปฏิบัติ กฎหมายจะดีแค่ไหนถ้าผู้ปฏิบัติไม่มีใจเป็นธรรม ไม่มีความสัตย์ซื่อ หรือไม่ธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม กฎหมายก็เปล่าประโยชน์ 

ดังนั้นผมคิดว่าบางอย่างถ้าเราจะคุ้มครองสิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมือง โดยพรรคประชาชาติก่อนที่จะยุบสภา เราก็ยกร่าง พ.ร.บ. หรือแก้ไข ป.วิอาญา การเป็นผู้เสียหาย การเป็นผู้กล่าวโทษ ไม่ใช่ใครก็เอาบัตรสนเท่ห์เข้าไป มันจะต้องมีกระบวนการพิสูจน์ทางวาจา พิสูจน์ว่าคุณเป็นผู้เสียหายอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงตามกฎหมายอาญา เพราะไม่เช่นนั้นคุณก็เอาบัตรสนเท่ห์ใบหนึ่ง คิดจะกลั่นแกล้งใครก็ได้ อันนี้สำคัญมาก 

ผมคิดว่าหลายพรรคการเมือง ผมยังดีใจในห้องประชุม อาจารย์โภคิน พลกุล จากพรรคคุณหญิงสุดารัตน์ (พรรคไทยสร้างไทย) ยังหยิบเรื่องที่ผมพูดตรงกันเลย  เพราะวันนี้สำคัญมาก คือต่อไปถ้าใครเอาเรื่องเช่นนี้ไปฟ้องคนอื่น ในทางปฏิบัติถ้าเขาไม่ผิดคุณต้องไปรับโทษแทนเขาด้วยซ้ำ คือวันนี้เราไปใช้อำนาจหรือใช้กฎหมายอยู่เหนือหลักความยุติธรรม 

สังคมใดก็ตามการเอากฎหมายหรือการตีความกฎหมายเอาเป็นสมบัติส่วนตัว ก็เป็นการทำให้คนกลุ่มหนึ่งเป็นอภิสิทธิ์ชน คนจำนวนมากกลับได้รับผลกระทบ ความเหลื่อมล้ำก็เกิดขึ้น 

แต่อยากจะเรียนว่าใน MOU ชัดเจน ในเรื่องที่เราจะไปคุ้มครองสิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมืองที่ครอบคุมหมด แล้วก็เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของการให้ความยุติธรรม อย่างน้อยที่สุด MOU ก็เป็นหลักประกันว่าเราจะทำบ้านเมืองใน 4 ปีข้างหน้าให้มีหลักนิติธรรมาใช้ คือทุกคนต้องถูกบังคับใช้กฎหมายโดยเสมอภาคเท่าเทียมกัน อันนี้เป็นสิ่งที่อยากจะฝากไว้

@@ แล้วจะมีแนวทางนำสันติภาพมาสู่ชายแดนใต้ได้อย่างไร? 

ส่วนที่เราจะต้องสร้างสันติภาพหรือสร้างความสงบสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ต้องเรียนว่า ชุดนโยบายของพรรคทั้ง 8 พรรค โดยเฉพาะพรรคประชาชาติ เราในสามจังหวัดเราส่งไม่เยอะ แค่สามจังหวัดและนอกมาอีกนิดเดียว ประชาชนก็ได้เลือกพรรคประชาชาติเป็นอันดับหนึ่ง แล้วก็พรรคร่วมฝ่ายค้านตามๆ มา เราคิดว่าเราจะต้องสร้างให้เกิดขึ้นให้ได้

สิ่งหนึ่งที่รัฐบาลจะมองข้าม เขาจะมองเรื่องความมั่นคง เป็นความมั่นคงของข้าราชการ โดยทำให้ความมั่นคงของราษฎรไร้ค่า เราจะเห็นได้ว่า จ.ปัตตานี ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด มีทั้งอ่าวไทยอันดามันล้อมรอบ นราธิวาส ยะลาอุดมสมบูรณ์ที่สุด แต่จังหวัดพวกนี้เป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดได้อย่างไร เป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดของประเทศเลย 

ดังนั้นเราจึงคิดว่า วันนี้เราต้องมาแก้ปัญหานี้ด้วยกันใหม่ อย่างน้อยที่สุด การสร้างสันติภาพสันติสุขก็คือว่า ต้องทำให้ประชาชนมีรายได้ที่เพียงพอ ก็คือพ้นจากความยากจน ชุดนโยบายทั้งของพรรคที่เป็นรัฐสวัสดิการ เป็นการแก้เบื้องต้น แล้วที่สำคัญที่มันโยงกันกับสันติสุขกับสันติภาพมันต้องอยู่ตรงกันข้ามกับยาเสพติด ที่ไหนมียาเสพติด สังคมนั้นไม่มีความสุข ไม่มีสันติสุขไม่มีสันติภาพ ที่ไหนมีสันติภาพเขาจะไม่ให้ประชาชนติดยาเสพติด 

วันนี้เป็นไปได้อย่างไรที่ยาเสพติดเป็นเต็มบ้านเต็มเมืองเลย เป็นไปได้อย่างไรที่กัญชาที่เป็นยาเสพติด คำว่ายาเสพติด ถ้าสหประชาชาติเขาบอกว่าเป็นยาเสพติด มีน้อยประเทศมากที่บอกว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด นี่ผมยังไม่เช็คเกาหลีเหนือว่าเขาเป็นยาเสพติดหรือเปล่า โดยเฉพาะในอาเซียนเป็นยาเสพติด แต่พรรคการเมืองบางพรรคมาบอกว่าไม่เป็นยาเสพติด พรรคฝ่ายค้านต่อสู้ อยากให้ตัดประโยคนี้ออก 

ดังนั้นเรื่องพวกนี้มันเป็นการทำลายสันติสุขสันติภาพ ปัญหาภาคใต้เราต้องยกระดับมาคุยกัน นี่คือการสร้างความปรองดอง ผมคิดว่าครั้งนี้เราอาจจะต้องแก้รัฐซ้อนรัฐ กอ.รมน.ก็ต้องเปลี่ยนบทบาท ไม่ใช่คุณไปทำเรื่องของคนอื่นทุกเรื่องเลย ทั้งที่คุณไม่มีกฎหมาย เช่น ไปทำเรื่องความยากจน ยาเสพติด วันนี้ต้องเอางบของคุณมาวาง แล้วนำปัญหาของประชาชนมาพิจารณา เช่น ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ก็มาใช้ทางการศึกษาแก้ไข ความยากจนของประชาชนก็ต้องเอางบตัวนี้ การแก้ปัญหาต้องเลิกรัฐซ้อนรัฐ ให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการแก้ปัญหา ความขัดแย้งผมคิดว่าไม่มี