ผบ.ตร. ยืนยันในนามตำรวจ 2 แสนกว่านาย พร้อมดูแลความปลอดภัย ‘พล.ต.ต. ปวีณ’ มือทำคดีโรฮิงญา หากกลับไทย 

ผบ.ตร. ยืนยันในนามตำรวจ 2 แสนกว่านาย พร้อมดูแลความปลอดภัย ‘พล.ต.ต. ปวีณ’

ผบ.ตร. ยืนยันในนามตำรวจ 2 แสนกว่านาย พร้อมดูแลความปลอดภัย ‘พล.ต.ต. ปวีณ’ มือทำคดีโรฮิงญา หากกลับไทย 





ad1


จากกรณี พล.ต.ต. ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 (รอง ผบช.ภ. 8. ) อดีตทีมสอบสวนคดีขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ที่พบศพบนเทือกเขาไม้แก้ว จังหวัดสงขลา ซึ่งมี พล.ท. มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และพวกอีกกว่า 100 คน เป็นผู้ต้องหา เหตุเกิดเมื่อปี 2558 ออกมาเปิดเผยว่า ถูกกดดันและคุกคามจนต้องลาออกจากตำรวจ และลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย
.
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (22 กุมภาพันธ์) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ข้อเท็จจริงเรื่องก็หลายปีแล้ว มีข่าวสารพัดเลยว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.ต. ปวีณ ซึ่งตนให้ตรวจสอบเบื้องต้นก็ยังไม่พบ ยังไม่มี ใครมีข้อมูลก็ส่งมา แต่ตรวจสอบแล้วก็ยังไม่พบว่ามีการดำเนินคดีกับ พล.ต.ต. ปวีณ ส่วนที่กลัวเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ตนตอบในนามตำรวจ 2 แสนกว่านายว่า ถ้าท่านกลับมาจะดูแลความปลอดภัยให้ กลัวอะไรก็มาบอกกัน รับรองว่าไม่มีเรื่อง ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครไปทำอะไรหรอก ทางตำรวจดูแลได้อยู่แล้ว
.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ฟ้อง พล.ต.ต. ปวีณในนามส่วนตัว ทาง พล.ต.อ. สุวัฒน์กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วไม่มี ถามต่อว่าขณะนั้นมีการฟ้องส่วนตัวหรือไม่ พล.ต.อ. สุวัฒน์กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดตอนนั้น แต่วันนี้ตนมีข้อมูลตรวจสอบแล้วยังไม่พบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีอะไร รวมถึงตำรวจก็ไม่มีการฟ้องร้อง พล.ต.ต. ปวีณในนามองค์กร
.
พล.ต.อ. สุวัฒน์กล่าวอีกว่า ตนก็ไม่ทราบว่าท่านกลัวอะไร แต่ว่าจะอะไรก็ช่างตนยืนยันว่าปลอดภัย ไม่มีใครมาทำอะไร ตนดูแลให้ได้ ถ้าอยากจะกลับมาก็บอกกันล่วงหน้า จะจัดการให้ไม่ต้องห่วง ทั้งนี้ ไม่ทราบสถานะปัจจุบันของ พล.ต.ต. ปวีณว่าเป็นพลเรือนของออสเตรเลียหรือไม่ แต่ท่านก็เป็นคนไทย อย่างไรก็ต้องดูแลเหมือนกันอยู่แล้ว ทางตำรวจยังไม่มีการติดต่อไปยัง พล.ต.ต. ปวีณ และทาง พล.ต.ต. ปวีณยังไม่มีการติดต่อกลับมาเช่นกัน
.
“จริงๆ แล้วถ้าท่านอยากจะกลับไม่มีใครไปห้ามท่าน ผมไม่ทราบรายละเอียดว่ามีใครไปอะไรหรือเปล่า เอาเป็นว่าในหน้าที่ของตำรวจ ถ้าคิดว่าจะกลัวโน่นกลัวนี่ ไม่ปลอดภัย เราดูแลให้ได้ รับประกันว่าไม่มีเรื่อง ไม่มีใครมาทำอะไร” พล.ต.อ. สุวัฒน์กล่าว
.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ทาง ผบ.ตร. ก็เป็นหนึ่งในคณะทีมสืบสวนสอบสวนที่ลงไปร่วมด้วยในขณะนั้น มีแรงกดดันหรืออิทธิพลอะไรที่จะทำให้ระดับ พล.ต.ต. ปวีณต้องกลัว พล.ต.อ. สุวัฒน์กล่าวว่า ตนไม่เห็นมีแรงกดดันอะไร คดีนี้ผู้ต้องหาเป็นร้อย พนักงานสอบสวนก็เยอะมากไม่ได้มีแค่ 1-2 นาย หัวหน้าพนักงานสอบสวนก็เป็นทางอัยการสูงสุด ในส่วนของตำรวจมีรอง ผบ.ตร. ดูแล คนเป็นร้อยทำคดีนี้ ตนไม่เห็นว่ามีใครมาบอกว่าใครไปโดนใครขู่อะไอย่างไร ทั้งนี้ ข้อมูลอยู่ที่ พล.ต.ต. ปวีณ แต่เท่าที่ตนรู้ตนไม่พบเรื่องพวกนี้
.
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าได้มีการเรียกทีมพนักงานสอบสวนมาคุยหรือไม่ ทาง พล.ต.อ. สุวัฒน์กล่าวว่า ไม่ได้เรียก เพราะเรื่องนี้ก็ผ่านไปนานแล้ว และคดีก็อยู่ในชั้นศาล หากจะเรียกมาก็ต้องมีเหตุมีผลกันหน่อยว่าประเด็นอะไร ฝากบอกท่านว่าถ้าจะกลับมาเราดูแลความปลอดภัยให้
.
ส่วนกรณีที่ พล.ต.ต. ปวีณพูดถึงปลาตัวใหญ่ พล.ต.อ. สุวัฒน์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องไปถามท่านว่าปลาตัวใหญ่คืออะไร ไปดูในสำนวนการสอบสวนก็ได้ ทำได้ครบถ้วน ออกหมายจับไว้เป็นร้อยราย อาจจะจับได้ไม่หมดก็พยายามเร่งรัดกันอยู่ประมาณ 30 รายที่ยังจับไม่ได้ ส่วนจับได้ก็เป็นร้อยกว่าราย ที่ฟ้องส่วนใหญ่ศาลก็ลงโทษ ตอนนี้อยู่ในชั้นฎีกา ตนเชื่อว่าของแบบนี้มันปิดกันไม่ได้หรอก คนเป็นร้อยๆ จะไปทำอะไร จะไปปิดคนขนาดนั้นได้อย่างไร และเรื่องนี้ก็ตั้งนานแล้ว
.
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าประเด็นนี้ทำให้เรื่องการปราบปรามค้ามนุษย์ของไทยถูกจับตาอีกครั้งหนึ่ง พล.ต.อ. สุวัฒน์กล่าวว่า การปราบปรามการค้ามนุษย์เราตั้งใจทำอยู่แล้ว และผลงานก็มีแต่เพิ่มขึ้นตลอด จริงๆ ขบวนการก็ไม่ได้มีอิทธิพลอะไรขนาดที่จะมาเปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่ใช่ขนาดนั้น มันไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น เราจัดการได้หมดอยู่แล้ว ก็ฝากว่าถ้าท่านกลัวอะไร ไม่กล้าบอกใคร บอกผมส่วนตัวก็ได้ อย่างไรก็แล้วแต่ ตนยืนยันในนามตำรวจ 2 แสนกว่านาย เราจะดูแลเรื่องปราบปรามการค้ามนุษย์ เราตั้งใจทำ และพร้อมชี้แจงทุกประเทศ