เปิดแล้ว งานประเพณีชักพระโคกโพธิ์เมืองปัตตานีจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่

เปิดแล้ว งานประเพณีชักพระโคกโพธิ์เมืองปัตตานีจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่





ad1

วันนี้( 11 ตุลาคม 2565) นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานประเพณีชักพระอำเภอโคกโพธิ์ ครั้งที่ 73 บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โดยนายสมนึก พรหมเขียว รองผู้ว่าราชการจังหวัขดปัตตานี นายอับดุลการีม ยีดำ  นายอำเภอโคกโพธิ์ หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องประชาชน ร่วมเปิดงานฯ

การจัดงานชุมนุมเรือพระเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2490 โดยพระอธิการแดง สุนทโร (หลวงปู่แดง) เจ้าอาวาสวัดมะเดื่อทองในขณะนั้น เห็นว่ามีการจัดทำพนมเรือพระกันหลายวัด จึงนัดหมายให้ลากพนมเรือพระมาชุมนุมสมโภชร่วมกันก่อน โดยใช้บริเวณพลับพลาที่ประทับของรัชกาลที่ 7 เป็นที่ชุมนุมนัดหมาย จากงานชุมนุมเรือพระวิวัฒนาการเป็นงานประเพณีชักพระ และเปลี่ยนแปลงเป็นงานประจำปีของอำเภอ โดยนายกุศล ศานติธรรม นายอำเภอโคกโพธิ์ ในขณะนั้นได้นมัสการขออนุญาต จากพระครูวิรัชโศภณ (หลวงปู่แดง) ให้เป็นงานเทศกาลประจำปี ของอำเภอโคกโพธิ์ ตั้งแต่ปี 2503 เป็นต้นมา งานประเพณีชักพระของอำเภอโคกโพธิ์

ได้กลายเป็นงานประเพณีประจำปีของจังหวัดปัตตานี สำหรับ ปี พ.ศ.2565 อำเภอโคกโพธิ์ได้กำหนดจัดงานประเพณีชักพระ เป็นครั้งที่ 73 ซึ่งจะกลับมาจัดงานประเพณีชักพระที่ยิ่งใหญ่และเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นวิกฤต โรค COVID -19 แต่เพื่อเป็นการป้องกัน และสร้างความอุ่นใจแก่ผู้มาร่วมงาน อำเภอโคกโพธิ์ ยังคงต้องขอความร่วมมือทุกท่านที่มาเที่ยวชมงาน สวมหน้ากากอนามัย ก่อนเข้างานทุกครั้ง

โดยกำหนดจัดงานฯ ตั้งแต่วันที่ 6-17 ตุลาคม 2565 เพื่ออนุรักษ์ สืบสาน วัฒนธรรมประเพณี อันดีงามที่มีอยู่ในพื้นที่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ให้คงอยู่สืบไป เพื่อส่งเสริมพัฒนา ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการจัดทำเรือพระที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม-ประเพณีไทยทำให้จังหวัดปัตตานีเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญในการท่องเที่ยว เพื่อช่วยพื้นฟูเศรษฐกิจ และเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ

เปิดโอกาสการสร้างเศรษฐกิจฐานราก ในระดับท้องถิ่น และเพื่อเสริมสร้างความสามัคคี และความเข้าใจอันดีของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันสงฆ์ และประชาชนทุกเชื้อชาติ และชุมชนศาสนา ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข โดยการจัดงานปีนี้ ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน ทั้งในและนอกพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก