ศอ.บต. พิจารณาการขอกลับเข้ารับเงินเยียวยาของเรือประมง 4 ลำ หลังสละสิทธิ์

ศอ.บต. พิจารณาการขอกลับเข้ารับเงินเยียวยาของเรือประมง 4 ลำ หลังสละสิทธิ์





ad1

ศอ.บต. ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการเยียวยาตามมาตรการลดจำนวนเรือประมงฯ  พิจารณาการขอกลับเข้ารับเงินเยียวยาของเรือประมง 4 ลำ

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการเยียวยาตามมาตรการลดจำนวนเรือประมง เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 6/2566 โดยมีพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานการประชุม ฯ พร้อมด้วยนายตรัยรัตน์ เรืองฤทธิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (สำนักงบประมาณ) นาวาเอก จักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. และคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการเยียวยาตามมาตรการลดจำนวนเรือประมงฯ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมปัญจเพชร ชั้น 3 ศอ.บต./ผ่านระบบ Zoom Meeting

ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาการขอกลับเข้ารับเงินเยียวยาตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบของเรือประมงจำนวน 4 ลำ ซึ่งได้รับความจากเดือดร้อนจากการประกอบอาชีพประมงตามที่ยื่นคำร้องจริง แต่ได้สละสิทธิ์รับเงินเยียวยาภายใต้โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ เพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีเร่งด่วน เรือชุดที่ 1 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีไปแล้ว

โดยมติมีแนวทางไม่ให้เรือ 4 ลำ เข้าทำสัญญาขอรับเงินเยียวยาเรือประมงในโครงการนี้ แต่หากเจ้าของเรือประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐสามารถดำเนินการได้ตามนโยบาย กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเจ้าของเรือจะต้องมีคุณสมบัติ และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จะได้กำหนดไว้สำหรับโครงการนั้น ๆ ต่อไป

ขณะที่พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการและคณะทำงานฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดปัญหา โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือต้องการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการประมง ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนด้วยความรอบคอบที่สุด

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการแยกชิ้นส่วนหรือทำลายเรือประมง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้เริ่มทำลายเรือประมงเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ขณะนี้สามารถทำลายเรือประมงแล้วเสร็จ จำนวน 60 ลำ ยังคงเหลืออีก 26 ลำ (ข้อมูล ณ วันที่ 4 กันยายน 2566)