ป.ป.ช.ชี้มูล "ชนสวัสดิ์" พร้อมพวก 11 คนเอี่ยวทุจริตเงินทอนวัด ปัดโยงการเมืองไม่ได้เจตนาชี้มูลในช่วงนี้

ป.ป.ช.ชี้มูล "ชนสวัสดิ์" พร้อมพวก 11 คนเอี่ยวทุจริตเงินทอนวัด

ป.ป.ช.ชี้มูล "ชนสวัสดิ์" พร้อมพวก 11 คนเอี่ยวทุจริตเงินทอนวัด ปัดโยงการเมืองไม่ได้เจตนาชี้มูลในช่วงนี้





ad1

วันนี้ (14 พ.ย.2565) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้อง กันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดข้อร้องเรียน กรณีกล่าวหานายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ (อบจ.) กับพวกรวม 11 คน ร่วมกันพิจารณา และอนุมัติเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อปีงบประมาณ 2554-2556 โดยมิชอบ

คดีดังกล่าว หลังจากรับเรื่องร้องเรียนแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในเรื่องกล่าวหาดังกล่าว จากการไต่สวนพบว่านายชนม์สวัสดิ์ ได้อนุมัติเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ระหว่างปีงบ 2554–2556 รวม 68 โครงการเป็นเงิน 836,129,125 บาท ในส่วนที่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ช่วงเวลาดังกล่าว จำนวน 20 โครงการ วงเงินงบ 338,753,750 บาท

ปรากฏข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายปกรณ์ เนตรประภา ซึ่งมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับผู้บริหารของ อบจ.สมุทรปราการ จะแสดงตัวเป็นตัวแทนหรือคนของผู้บริหารไปประสานงานติดต่อกับวัดที่ขอรับเงินอุดหนุน เพื่อก่อสร้างเมรุหรือศาลาการเปรียญ มีการจัดทำคำขอ แบบแปลน และประมาณการราคานำไปให้เจ้าอาวาสวัดต่างๆ ลงนาม และรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องนำไปยื่นให้อบจ.สมุทรปราการ

เมื่อ อบจ.สมุทรปราการได้รับคำขอแล้ว นายอำนวย รัศมิทัต ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายก อบจ.สมุทรปราการ ในช่วงปีงบ 2554 และนายชนม์สวัสดิ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายก อบจ.สมุทรปราการ ในช่วงปีงบ 2555-2556 ได้ร่วมกับนายมนัส บุญอารีย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นปลัด อบจ.สมุทรปราการ ในช่วงปีงบ 2554-2555 และนายสายัณห์ รักษนาเวศ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นปลัด อบจ.สมุทรปราการ ในช่วงปีงบ 2556

นายวิชัย จันทร์จำรูญ ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม นายชัยยศ ตั้งจิตดำรง ผอ.การกองช่าง และนายอนุวัช ควรคิด รีบเร่งตั้งงบประมาณรายจ่ายหมวดเงินอุดหนุน เสนอและเห็นชอบโครงการเข้าแผนพัฒนาของ อบจ.สมุทร ปราการ โดยที่ไม่ทำการตรวจสอบรายละเอียดโครงการ รายละเอียดแบบแปลนและประมาณราคาก่อสร้างซ่อมแซมศาสนสถานว่ามีความถูกต้อง เหมาะสมกับงบประมาณที่ขอมาหรือไม่

นอกจากนี้ มีการจัดทำ และประกาศใช้แผนพัฒนาของอบจ.สมุทรปราการ ประกาศใช้ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี จนกระทั่งมีการอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้แก่วัดตามวงเงินที่ขอมา

โดยในขั้นตอนการรับเงินอุดหนุน เมื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติเงินแล้ว นายปกรณ์ จะแจ้งให้ทางวัดทราบล่วงหน้า เพื่อนัดหมายกับเจ้าอาวาสวัดให้ไปรับเช็คเงินอุดหนุน เมื่อทางวัดไปรับเช็คมาแล้ว

ในวันเดียวกันนายปกรณ์ จะร่วมกับเจ้าอาวาสหรือผู้แทนวัด นำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารพร้อมกับเบิกเงินและมอบให้นายปกรณ์ จำนวนครึ่งหนึ่งของวงเงินที่ได้รับการอุดหนุน จากนั้นบริษัท เอเวอร์กรีน เอ็กซ์พอลเรอร์ฯ ซึ่งมีนายปกรณ์ เป็นกรรมการผู้จัดการ จะได้เข้ามาเป็นผู้รับจ้างตามโครงการที่ได้รับเงินอุดหนุน

ภายหลังเมื่อ อบจ.สมุทรปราการ ได้อนุมัติเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่วัด และ วัดได้รับเงินแล้ว นายชนม์สวัสดิ์ ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ กับพวกกลับไม่ตรวจสอบติดตามการใช้จ่ายเงินอุดหนุน และการดำเนินงานในแต่ละโครงการว่าได้ดำเนินการเป็นไปตามแบบแปลน และประมาณการราคา คุ้มค่าและเหมาะสมกับงบประมาณที่อุดหนุนหรือไม่ การดำเนินโครงการแล้วเสร็จเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการหรือไม่

ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่า ทุกโครงการมีปัญหาจากการก่อสร้าง อันเกิดจากผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญา มีการจ้างช่วง ทิ้งงาน อีกทั้งการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบแปลน รายการปริมาณงานและประมาณการราคา เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อราชการ

คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาสำนวนการไต่สวนแล้ว มีมติดังนี้

1.การกระทำของนายชนม์สวัสดิ์  และนายอำนวย มีมูลเป็นการละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157

2.การกระทำของนายสายัณห์ รักษนาเวศ นายวิชัย จันทร์จำรูญ นายชัยยศ ตั้งจิตดำรง นายมนัส บุญอารีย์ และนายอนุวัช ควรคิด มีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

3.การกระทำของบริษัท เอเวอร์กรีน เอ็กซ์พอลเรอร์ฯ และนายปกรณ์ เนตรประภา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151, 157 ประกอบมาตรา 86

นายนิวัติไชย กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด ป.ป.ช.จึงเพิ่งชี้มูลคดีของนายชนม์สวัสดิ์ โดยยืนยันว่า ถ้าดูไทม์ไลน์จะเห็นว่าเราทำมาตลอด มีการขยายผล เพราะไม่ใช่วัดเดียวที่ได้รับเงิน และเหตุเกิด 3 ปีงบประมาณ เงิน 800 กว่าล้าน แต่เราเจาะแค่ 200 ล้าน ที่ไม่สัมพันธ์กัน คือจ่ายเงินไปแล้วการก่อสร้างไม่มีประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลย และพบการหาผลประโยชน์ โดยเสนอเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.ถึง 3 ครั้ง

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติให้ไต่สวนเพิ่มเติมจนได้รายละเอียดครบถ้วน เราเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักการเมืองท้องถิ่นการไต่สวนจึงต้องละเอียด การดำเนินการเป็นไปตามกลไก และยังมีอีกหลายเรื่องที่จะแล้วเสร็จในช่วงนี้ ซึ่งถ้าจำได้ตนเคยให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงต้นปีว่าจะมีคดีสำคัญออกมาในช่วงปลายปี โดยเราได้ตกลงกับเจ้าหน้าที่ว่าคดีต้องเสร็จ เพราะกฎหมายกำหนดระยะเวลาไว้ ถ้าไม่เสร็จจะมีปัญหาเรื่องการชี้มูลทางวินัย ถ้าชี้มูลเกินกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดจะไม่มีผลผูกพันให้ผู้บังคับบัญชาไปดำเนินการทางวินัยกับเขา ทำให้เกิดความเสียหายกับทางราชการ ดังนั้น เราจึงต้องได้ดำเนินการ รวมทั้งผู้ถูกกล่าวหาบางรายยังคงรับราชการอยู่ จึงน่าจะเรียกว่าประจวบเหมาะมากกว่า