สภาน้ำมูลนิธิชุ่มน้ำทะเลน้อยค้าน ขุดคลองส้านแดง จ.พัทลุง และยุติโครงการขุดทุกคลองไปก่อน

สภาน้ำมูลนิธิชุ่มน้ำทะเลน้อยค้าน ขุดคลองส้านแดง จ.พัทลุง และยุติโครงการขุดทุกคลองไปก่อน





ad1

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 เมษายน 2567 สภาน้ำจังหวัดพัทลุง มูลนิธิชุ่มน้ำทะเลน้อย จ.พัทลุง ร่วมกับกลุ่มคลองส้านแดง ต.แม่ขรี ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ได้รวมกลุ่มและยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และผู้อำนวยการชลประทานจังหวัดพัทลุง เรื่องขอให้ยกเลิกการขุดลอกคลองส้านแดง (ต.ตะโหมด ต.แม่ขรี) อ.ตะโหมด จ.พัทลุง และจังหวัดพัทลุง ชลประทานจังหวัดพัทลุงได้ประชุมร่วมกันกับประชาชนโดยมีตัวแทน รวมประมาณ 50 คน ที่ห้องประชุ ศาลากลางจังหวัดพัทลุง

โดยทางชลประทานจังหวัดพัทลุง ได้ระบุว่า การก่อสร้างลงทุนโครงการของกรมชลประทาน จะหารือร่วมกับประชาชนเพื่อร่วมกันออกแบบเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ โดยกรมชลประทานจะขออยู่ร่วมกับชาวบ้าน และหนังสือที่คัดค้านการขุดลอกคลองส้านแดง ที่ได้ยื่นถึงประทานจังหวัดพัทลุง ทางชลประทานจังหวัดพัทลุง จะยื่นถึงกรมชลประทานพิจารณาดำเนินการต่อไป

ส่วนทางจังหวัดพัทลุง พร้อมกับจะลงไปศึกษาพบกับประชาชนและคลองส้านแดงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของทุกฝ่าย สำหรับโครงการขุดลอกคลองส้านแดง ต้องชะลอโครงการไว้ก่อน พร้อมกับสอบถามชาวบ้านว่าจะดำเนินกาอยู่ร่วมกันอย่างไร 

นายพรศักดิ์ ชุมทอง ประธานสภาน้ำจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า คลองส้านแดง เมื่อปี 2564 ทางโครงการชลประทานจังหวัดพัทลุง และกรมชลประทาน ได้คิดจะขุดลอกคลองส้านแดง แต่ได้รับการคัดค้านจากประชาชนจึงได้เลิกไป 
และประชาชนยังกลัวว่าการขุดคลอง จำให้คลองส้านแดงที่อุดมสมบูรณ์ จะมีสภาพเหมือนคลองลายพัน หมู่ 3 5 6 บ้านท่าเหนาะ ต.ลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง ที่เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศน์ และสร้างคามเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็น เนื่องจากได้ทำการขุดลอกคลองลายพันจนไม่เหลือสภาพความเป็นคลองอีกแล้ว

ดังนั้นสภาน้ำพัทลุง มูลนิธิพื้นที่ชุมน้ำทะเลน้อย จึงขอเรียกร้องดังต่อไปนี้ 

1.ขอให้ยุติโครงการขุดลอก และคลองสายอื่น ๆ ใน จ.พัทลุง 2. การดำเนินการใด ๆ ต่อสายน้ำทุกสายจะต้องเปิดเวทีสร้างคามเข้าจต่อคนในพื้นที่และที่เกี่ยวข้องในทุกด้านทุกมิติ ประเมินตัดสินใจอย่างเพียงพอ ฯลฯ  3. ขอให้ทางชลประทานท่าเชียด จ.พัทลุง ส่งแผนงานโครงการขุดลอก แบบแปลน และงบประมาณ วัตถุประสงค์ คลองส้านแดง ตลอดจนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับระบบนิเวศน์ ชุมชน ให้ทางสภาน้ำให้ได้รับทราบ  4.ขอให้ชลประทานท่าเชียด จ.พัทลุง ยุติการการดำเนินการที่จะนำไปสู่การขุดลอก และคลองอื่น ๆ ใน จ.พัทลุงไว้ก่อน  เพื่อให้ชุมชนได้อยู่กันอย่างสงบสุข

ขอให้ชลประทานท่าเชียด ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง จะตระหนักในคุณค่าระบบนิเวศน์สายน้ำ ผืนป่า แหล่งอาหารของชุมชนที่อยู่บริเวณสายน้ำ และตระหนักและให้คุณค่าต่อการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของชาวบ้านด้วยกัน.

“สำหรับผลของการปะชุม เป็นที่น่าพอใจของทุกฝ่าย แต่ในทางที่ดีคือหาทางออกในการยุติการขุดลองคลองส้านแดง” นายพรศักดิ์ กล่าว.

ทางด้าน สมาชิกสภาน้ำจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า จ.พัทลุง มีนโยบายการเชิงนิเวศธรรมชาติ เขา ป่า นา เล ซึ่งเป็นจุดขายที่สำคัญของ จ.พัทลุง แต่หากเมื่อมีการขุดลอกคลอง ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศธรรมชาติ ฯลฯ ก็จะส่งผลต่อโครงการ เขา ป่า นา เล อย่างเลี่ยงไม่พ้น บรรดากลุ่มท่องเที่ยวธรรมชาติประเภทต่าง  ๆ ซึ่งมีอยู่ทั่วจังหวัดพัทลุง ก็น่าตระหนักถึง

สำหรับโครงการขุดลอกคลองส้านแดง คลองมีความยาวประมาณ 21 กิโลเมตร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำที่ชลประทานท่าเชียด ต.โคกศักดิ์  อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ซึ่งมีต้นน้ำจากน้ำตกหินลาด บ้านโล๊ะจังกระ  อ่างเก็บน้ำคลองเขาหัวช้าง บ้านเขาหัวช้าง และคลองกงบ้าตะโหมด ต้นน้ำหลักจากเทือกเขาบรรทัดเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด รอยต่อ จ.พัทลุง ตรัง สตูล จ.สงขลา

โดยที่สายน้ำที่ไหลผ่านจำนวน 10 หมู่บ้านทั้ง 2 ฝั่งคลอง เช่น บ้านเขาหัวช้าง บ้านโล๊ะจังกระ บ้านโล๊ะเหรียง บ้านควนอินนอโม ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด บ้านควนล่อน  บ้านด่านโลด บ้านหนองปด  บ้านทุ่งเหรียง บ้านควนปาบ และบ้านแม่ขรี ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง

โดยใช้งบประมาณ รวมทั้งค่าเวนคืนประมาณ 700 ล้านบาท  ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการมาแล้วกว่า 10 ปี ยังไม่แล้วที่จะดำเนินการได้ เพราะได้รับการคัดค้าน

“สำหรับโครงการขุดลอกสร้างคลองส้านแดงใหม่ มีทั้งกลุ่มแสดงการคัดค้าน ไม่คัดค้าน และงดออกเสียง”. 

โดย...อัสวิน ภักฆวรรณ